รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีกจำกัด (มหาชน) (OR) แจ้งต่อตลท.ว่า ผลดำเนินงานงวดปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 8,791 ล้านบาทลดลง 2,104 ล้านบาท หรือ 19.31% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่อยู่ที่ 10,896 ล้านบาท จากค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่สูงขึ้นจากการขยายสถานีบริการและร้านคาเฟ่ อเมซอน รวมถึงการจัดประเภทค่าใช้จ่ายตามมาตรฐานบัญชีใหม่ นอกจากนี้ ยังมีผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ทางการเงินเพิ่มขึ้น จากการเริ่มใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 เครื่องมือทางการเงินตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2563 โดยรวมแล้วส่งผลให้กำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.98 บาท ปรับลดลง 19%
ขณะที่ รายได้และบริการของบริษัทในปี 2563 อยู่ที่ 428,804 ล้านบาท ลดลง 148,330 ล้านบาท หรือ25.7% จากปีก่อนที่ 577,134 ล้านบาท มาจากรายได้กลุ่มธุรกิจน้ำมันเป็นหลัก โดยราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์นํ้ามันปรับตัวลดลงตามราคานํ้ามันในตลาดโลก ซึ่งเป็นผลจากสงครามราคา ระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก (OPEC) และประเทศรัสเซีย ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของอุปทานน้ำมันทั่วโลก รวมทั้งอุปสงค์ของน้ำมันทั่วโลกก็ลดลงจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และปริมาณขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักปรับลดลง ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันอากาศยาน ดีเซล และเบนซิน จากผลกระทบของการระบาดของไวรัสโควิด-19
สําหรับในประเทศไทยเพื่อระงับและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รัฐบาลไทยจึงได้ออกมาตรการจํากัดการเดินทาง และเวลาในการเปิด-ปิด ร้านค้า ส่งผลกระทบต่อปริมาณการขาย ในช่วงเดือนเมษายน 2563 อย่างไรก็ตามปริมาณการขายก็เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามลําดับ เมื่อรัฐบาลไทยเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ในเดือนพฤษภาคม 2563 โดยไตรมาส 4 ปี 2563 ปริมาณการขายปรับตัวเพิ่มเกือบเทียบเท่าสถานการณ์ปกติก่อนภาวะไวรัสโควิด-19 ยกเว้นผลิตภัณฑ์น้ำมันอากาศยาน ที่ยังได้รับผลกระทบจากข้อจํากัดการเดินทางระหว่างประเทศ และปริมาณเที่ยวบินทั่วโลกที่ลดลง และ LPG ภาคครัวเรือนจาก สภาพเศรษฐกิจไทยที่ยังชะลอตัว
ขณะเดียวกัน รายได้กลุ่มธุรกิจ Non-Oil ลดลงจากรายได้ของร้านค้าสะดวกซื้อ ส่วนรายได้กลุ่มธุรกิจต่างประเทศลดลงเช่นกัน สาเหตุจากผลกระทบของการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลต่อราคาขายผลิตภัณฑ์และปริมาณขายที่ลดลง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมันอากาศยาน
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date) ในวันที่ 17 มีนาคม 2564 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 16 มีนาคม 2564 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 เมษายน 2564 รวมถึงเตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 7 เมษายน 2564