นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการบริหารพื้น ที่ราชพัสดุ โดยเฉพาะโครงการที่มีความล่าช้า ซึ่งมีผลต่อการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐว่า ล่าสุดกรมธนารักษ์ ได้ทำหนังสือถึงกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อทวงถามค่าเช่าจากการใช้ประโยชน์ในพื้นที่บริเวณหมอชิตเก่า ขนาดกว่า 40 ไร่ ทำเป็นอาคารจอดรถไฟฟ้า และอาคารจอดและจร โดยกรุงเทพมหานครได้ค้างค่าเช่ามาตั้งแต่ปี 2542 คิดเป็นเงินกว่า 240 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาอาจมีการติดขัดข้อกฎหมาย แต่เนื่องจากกรุงเทพมหานครได้นำพื้นที่ไปใช้ประโยชน์แล้ว ซึ่งตามเงื่อนไขของการใช้พื้นที่ราชพัสดุจะต้องมีการชำระค่าเช่า
“กรมธนารักษ์ มีหน้าที่ในการจัดหารายได้เข้ารัฐ ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ ซึ่งนอกจากการตามค่าเช่าจากทางกรุงเทพมหานครแล้ว กรมฯ ก็จะมีการเร่งรัดทำสัญญาโครงการลงทุนในพื้นที่ราชพัสดุอื่นๆ ให้ได้ตามแผน หลังจากที่ผ่านมาหลายโครงการมีความล่าช้าไปมาก”นายยุทธนากล่าว
ทั้งนี้โครงการที่มีความชัดเจนแล้ว อาทิ โครงการร้อยชักสาม เพื่อพัฒนาพื้นที่อาคารเก่าสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นโรงเก็บภาษีเก่า เพื่อพัฒนาเป็นโรงแรมหรูและแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ตลอดจนการพัฒนาโครงการวังค้างคาว โดยคาดว่าจะเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลเพื่อพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวได้ภายในปี2564 ทั้งนี้กรมฯ ตั้งเป้าว่าจะจัดเก็บรายได้เข้ารัฐจากการบริหารพื้นที่ราชพัสดุในปีนี้ ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: