เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ กฎกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 372 (พ.ศ.2564) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร เพื่อกำหนดให้เงินได้ที่ผู้มีเงินได้ได้รับเป็นเงินสนับสนุนหรือประโยชน์อื่นใดจากภาครัฐ เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ปี 2563 ดังนี้
(1) เงินสนับสนุนที่ได้รับตามมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับ ผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด -19 ) โครงการ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาและชดเชยให้แก่ประชาชนซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ของกระทรวงการคลัง และโครงการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด -19 ) ซึ่งยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยา ของกระทรวงแรงงาน
(2) เงินสนับสนุนหรือประโยชน์อื่นใดที่ได้รับเป็นค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเข้าชมสถานที่ ท่องเที่ยว ค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ค่าสปาหรือนวดเพื่อสุขภาพ ค่ารถเช่าหรือเรือเช่า เพื่อการท่องเที่ยว หรือค่าตั๋วโดยสารเครื่องบิน ตามโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
(3) ประโยชน์อื่นใดที่ได้รับเป็นค่าซื้อแพกเกจทัวร์จากผู้ประกอบการนำเที่ยว ตามโครงการ กำลังใจ
(4) ประโยชน์อื่นใดที่ได้รับเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่ม หรือค่าซื้อสินค้าอื่น ที่ได้ใช้จ่ายผ่านระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์โดยภาครัฐ ตามโครงการคนละครึ่ง
โดยกฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับในปีภาษี พ.ศ. 2563
เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่รัฐบาลได้จัดให้มีเงินสนับสนุนหรือประโยชน์อื่นใดตามมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (เราไม่ทิ้งกัน) โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการกาลังใจ และโครงการคนละครึ่ง สมควรกาหนดให้เงินสนับสนุนหรือประโยชน์อื่นใดที่ผู้มีเงินได้ได้รับตามมาตรการหรือโครงการดังกล่าว ในปีภาษี พ.ศ. 2563 เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคานวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
ที่มา: ราชกิจจานุเบกษา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รอเก้อ"เราเที่ยวด้วยกัน"เฟส3 ททท.แจงใช้ไม่ทันสงกรานต์นี้
คนละครึ่ง-เราชนะ มาแน่! "อนุชา"ชี้กระแสตอบรับดี เชื่อรัฐต่ออายุโครงการ