รายงานข่าวเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา กองทุนเปิดแอสเซทพลัสเอไอตราสารหนี้ 1 เจ้าหนี้ของบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (IFEC) ได้นำเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์บุกเข้ายึดทรัพย์สินทั้งสิ้นทั้งปวงที่ IFEC มีอยู่ในครอบครอง โดยเข้าไปยึดทรัพย์ที่ทำการของบริษัท และเจ้าหนี้จะเริ่มสืบพยาน เพื่อขอให้ศาลล้มละลายกลางพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดลูกหนี้ สำหรับการเข้าสู่กระบวนการให้ IFEC ที่เป็นลูกหนี้ ล้มละลายต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2564 นายทวิช เตชะนาวากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IFEC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทขอแจ้งความคืบหน้าคดีล้มละลาย เลขที่หนังสือที่สนบ. 2564/0012 ฉบับลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 และคดีฟื้นฟูกิจการ ขอแจ้งคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวเลขที่หนังสือ ที่ สนบ. 2564/0017 ฉบับลงวันที่ 9 มีนาคม 2564 โดยบริษัทได้ถูกฟ้องเป็นคดีล้มละลายของศาลล้มละลายกลาง คดีหมายเลขดำที่ ล.3237/2562 และคดีหมายเลขแดงที่ ล.5350/2562 รายละเอียดปรากฎตามเอกสารที่อ้างถึงนั้น
คดีศาลล้มละลายกลาง นัดพร้อม เพื่อยกคดีขึ้นพิจารณาในวันนี้ ปรากฎว่า มีบุคคลภายนอกอ้างว่า เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของบริษัท ได้ยื่นคำร้องสอดเข้าเป็นโจทก์ร่วม อีก 4 ราย ศาลล้มละลายกลางพิเคราะห์แล้ว ให้นัดไต่สวนคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมของเจ้าหนี้รายต่างๆ ดังกล่าว ในวันที่ 26 เมษายน2564 เวลา 09.00 น. ทั้งนี้ บริษัทได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลล้มละลายกลาง มีคำสั่งตามมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 เพื่อเพิกถอนคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว ศาลล้มละลายกลางจึงนัดไต่สวนคำร้องดังกล่าว ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 เวลา 09.00 น.
อนึ่ง เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564 บริษัทได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งคดีฟื้นฟูกิจการแล้ว และศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับอุทธรณ์เรียบร้อยแล้ว
สำหรับฐานะการเงินของ IFEC ณ สิ้นปี 2559 ซึ่งเป็นการส่งงบการเงินครั้งสุดท้ายต่อตลท. โดยมีสินทรัพย์อยู่ที่ 12,630.12 ล้านบาท มีหนี้สินรวมอยู่ที่ 9,343.68 ล้านบาท ส่วนรายได้อยู่ที่ 1,074.78 ล้านบาท มีผลขาดทุนสุทธิ 1,886.06 ล้านบาท ขณะที่ จำนวนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) อยู่ที่ 19,849 ราย หรือ 88% ส่วนผู้ถือหุ้นประเภท XM อยู่ที่ 22,974 ราย หรือ 92.01% ของการถือหุ้นแบบไร้ใบหุ้น
ขณะที่ 5 อันดับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือ นายทวิช เตชะนาวากุล จำนวน 238,421,100 หุ้น หรือ 11.80%, นายทวีฉัตร จุฬางกูร จำนวน 64,060,600 หุ้น หรือ 3.17%, บริษัท ณุศาบุรี จำกัด จำนวน 56,198,400 หุ้น หรือ 2.78%, นายอนันต์ ตันตสิรินทร์ จำนวน 54,804,800 หุ้น หรือ 2.71% และนางจิดาภา กันตสุสิระ จำนวน 50,000,000 หุ้น หรือ 2.47%