นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า เตรียมเปิดศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดสินค้าที่อยู่ในการควบคุมของกรมสรรพสามิต (สินค้าออนไลน์) เต็มรูปแบบภายในปี 2664 นี้ โดยศูนย์ดังกล่าวได้ติดตั้งระบบซอฟต์แวร์ และระบบตรวจสอบที่ทันสมัย มีการใช้ในระดับสากล ซึ่งสามารถตรวจจับความเชื่อมโยงของเครือข่ายของผู้กระทำความผิดได้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปรามปราบสินค้าผิดกฎหมายที่จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ขณะที่ผลการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายช่วง 6 เดือนในปีงบประมาณ 2564 สามารถจับกุมได้ 1.5 หมื่นคดี คิดเป็นค่าปรับกว่า 270 ล้านบาท
“ศูนย์ดังกล่าวใช้งบประมาณรวมกว่า 100 ล้านบาท ในการติดตั้งระบบซอฟต์แวร์และระบบตรวจสอบ ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในระดับสากล ทุกวันนี้มีการขายสินค้าผิดกฎหมายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น มั่นใจว่าเมื่อเปิดศูนย์นี้แล้วจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปราบปราม และจะทำให้เห็นตัวเลขการจับกุมเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด” อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าว
ทั้งนี้ ผลการปราบปรามการกระทำผิดผ่านช่องทางออนไลน์ ในช่วง 6 เดือนปีงบประมาณ 2564 มีจำนวน 179 คดี คิดเป็นค่าปรับรวมประมาณ 23,149,893 บาท โดยสามารถจับกุมการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ผิดกฎหมายได้มากที่สุด จำนวน 90 คดี คิดเป็นค่าปรับ 8,826,583 บาท รองลงมา คือ รถยนต์ 48 คดี คิดเป็นค่าปรับ 9,320,792 บาท สุรา 17 คดี คิดเป็นค่าปรับ 2,389,948 บาท ยาสูบ 12 คดี คิดเป็นค่าปรับ 502,040 บาท ไพ่ จำนวน 1คดี คิดเป็นค่าปรับ 329,940 บาท และอื่นๆ 11 คดี คิดเป็นค่าปรับ 1,780,589 บาท
โดยวันนี้ ( 5 เมษายน 2564 ) อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้แถลงข่าวการจับกุมไพ่ผิดกฎหมายในเขตพื้นที่อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 33,809 สำรับ (1,758,068 ใบ) มูลค่าของกลางประมาณ 1,656,641 บาท มูลค่าภาษีที่รัฐเสียหาย ประมาณ 527,420 บาท คิดเป็นค่าปรับผู้กระทำผิดประมาณ 7,911,306 บาท ซึ่งการจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากการตรวจพบการจำหน่ายไพ่ผิดกฎหมายทางช่องทางออนไลน์ ก่อนดำเนินการสืบสวนหาแหล่งที่มา วิธีการจำหน่ายและสถานที่เก็บสินค้า จนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดและของกลางจำนวนมาก
สำหรับผลการปราบปรามในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ในรอบ 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 – 1 เมษายน 2564 พบว่ามีการกระทำผิด จำนวน 14,999 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 270.33 ล้านบาท โดยแยกเป็น สุรา จำนวน 8,456 คดี ค่าปรับ 74.97 ล้านบาท ยาสูบ จำนวน 4,399 คดี ค่าปรับ 96.31 ล้านบาท ไพ่ จำนวน 334 คดี ค่าปรับ 4.41 ล้านบาท น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 673 คดี ค่าปรับ 42.58 ล้านบาท น้ำหอม จำนวน 68 คดี ค่าปรับ 2.69 ล้านบาท รถจักรยานยนต์ จำนวน 745 คดี ค่าปรับ จำนวน 21.60 ล้านบาท และสินค้าอื่น ๆ จำนวน 324 คดี ค่าปรับ 27.77 ล้านบาท