นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน เม.ย.64 ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน มี.ค.64 ท่ีผ่านมา จาก ระดับ 55.75 จุด มาอยู่ท่ีระดับ 62.80 จุด เพิ่มขึ้น 7.05 จุด หรือคิดเป็น 12.65% โดยมีปัจจัยจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ นโยบายเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) และความไม่แน่นอนของการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคําระยะ 3 เดือนในไตรมาสที่ 2 ของปี 64 (เม.ย.–มิ.ย.) ปรับลดลงจากไตรมาสแรกของ ปี 64 จากระดับ 69.57 จุด มาอยู่ที่ระดับ 67.52 จุด ลดลง 2.05 จุด หรือคิดเป็น 2.95% โดยมีสาเหตุจาก เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณการฟื้นตัว การแข็งค่าของเงินบาท ทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) วัคซีนต้านไวรัส โควิด-19 มีประสิทธิภาพสูง และหากหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการ Lockdown
สำหรับความต้องการซื้อทองคํา ช่วงเดือน เม.ย.64 จากกลุ่มตัวอย่าง 360 ตัวอย่าง พบว่า 45% คาดว่าจะซื้อทองคําในช่วงเดือนนี้ ขณะที่ 32% ยังไม่ซื้อทองคํา และ 23% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคําหรือไม่ โดยราคาทองคําเดือน เม.ย.64 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคํารายใหญ่ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,676 – 1,790 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ด้านราคาทองคําแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณบาทละ 24,700–26,200 บาท และด้านค่าเงินบาทให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 30.77–31.63 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม การลงทุนทองคําเดือน เม.ย.64 ผู้ค้าทองคํารายใหญ่ให้ความเห็นว่า ที่ผ่านมาราคาทองยังไม่มีปัจจัยหนุน โดย หากราคาทองคําสามารถผ่านแนวต้านที่บริเวณ 1,760 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ได้ จะมีแนวต้านถัดไปอยู่ที่ บริเวณ 1,780 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หากสามารถผ่านไปได้จะทําให้ราคาทองกลับมามีมุมมองบวกได้อีกครั้ง แต่หากราคาทองไม่สามารถ ผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทํากําไรท่ีสลับออกมา