นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) (TIDLOR) เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในครั้งนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มศักยภาพให้กับเงินติดล้อ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมรักษาความเป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน และก้าวสู่การผู้นำธุรกิจนายหน้าประกันภัยสำหรับรายย่อย โดยคาดว่าจะเข้าซื้อขายวันแรกในวันที่ 10 พฤษภาคม 2564
สำหรับผลิตภัณฑ์เงินติดล้อมีสินเชื่อที่หลากหลาย เช่น สินเชื่อรถจักรยานยนต์ รถยนต์ รถบรรทุก รถไถรถแทรกเตอร์ เป็นต้น โดยมีฐานลูกค้าเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ของประเทศที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่ำกว่า10,000 บาท และล่าสุดได้นำเสนอบัตรติดล้อ บัตรกดเงินสดหมุนเวียนที่ช่วยให้ลูกค้ากดเงินสดเพิ่มเติมตามวงเงินสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติ โดยไม่ต้องยื่นเอกสารใหม่ ผ่านตู้ ATM ของธนาคารพาณิชย์ชั้นนำที่เป็นคู่ค้าตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น
"การเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ครั้งนี้ เราให้สิทธิพนักงานของเงินติดล้อกว่า 5,000 คนมีโอกาสจองซื้อหุ้นที่ราคา IPO เพื่อร่วมเป็นเจ้าของและเติบโตไปด้วยกัน"
นายวีรภัทร์ วิริยะโกวิทยา ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายบัญชีและการเงิน TIDLOR กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยระหว่างปี 2561 – 2563 มีรายได้รวม 7,569.4 ล้านบาท 9,457.9 ล้านบาท และ 10,558.9 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 1,306.2 ล้านบาท 2,201.7 ล้านบาท และ2,416.1 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีของกำไรสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 36.0 ในช่วงเวลาเดียวกัน
ทั้งนี้ เงินติดล้อ วางกลยุทธ์เป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ผ่านการขยายเครือข่ายอีก 500 แห่ง ภายในปี 2566 เพิ่มตัวแทนและพนักงานขายทางโทรศัพท์ และการลงทุนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี พัฒนาแพลตฟอร์มทางการเงินและเปลี่ยนผ่านกระบวนต่างๆ สู่ดิจิทัล โดยการเสนอขาย IPO มีจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 907,428,600 หุ้น ประกอบด้วย 1.การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนโดยบริษัทฯ ไม่เกิน210,816,700 หุ้น 2.หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา ไม่เกิน 284,144,300 หุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Siam Asia Credit Access Pte. Ltd. ไม่เกิน 412,467,600 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนรวมกันไม่เกินร้อยละ 39.1 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก
นอกจากนี้ อาจจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Greenshoe หรือ Over-allotment Option) ไม่เกิน 136,114,200 หุ้น หรือไม่เกินร้อยละ 15.0 ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนและช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้นที่เสนอขายครั้งแรกภายในเวลา 30 วัน นับจากวันแรกที่เข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้นที่ 34.00 – 36.50 บาทต่อหุ้น
"IPO ของหุ้น TIDLOR จะมีมูลค่าการเสนอขายรวมไม่เกิน 35,481 – 38,090 ล้านบาท (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) ซึ่งนับเป็น IPO ของหุ้นในหมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุด 5 อันดับแรกในประวัติศาสตร์ตลาดทุนไทย สำหรับ นักลงทุนรายย่อยที่สนใจสามารถจองซื้อหุ้น TIDLOR ได้ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ของวันที่ 22 เมษายน 2564 ถึง เวลา 16.00 น. ของวันที่ 26 เมษายน 2564 ผ่านช่องทางออนไลน์ของตัวแทนจำหน่ายหุ้น 3 ราย ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย และ บล.กรุงศรี ที่เป็นลูกค้าของบล.เท่านั้น
ทั้งนี้ การจัดสรรหุ้นจะใช้วิธี Small Lot First โดยต้องจองซื้อหุ้นขั้นต่ำเป็นจำนวน 1,000 หุ้น ที่ราคา 36.50 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่า 36,500 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนหุ้นที่จองซื้อต่อหนึ่งใบจอง นักลงทุนรายย่อยที่จองซื้อและชำระเงินครบถ้วนทุกจะได้รับจัดสรรหุ้นในรอบแรกเป็นจำนวนขั้นต่ำที่ 1,000 หุ้น จากนั้นจะได้รับการจัดสรรเพิ่มรอบละ 100 หุ้นต่อราย ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจำนวนหุ้นเบื้องต้นที่เสนอขายต่อผู้จองซื้อรายย่อยจะครบตามจำนวนที่กำหนด