วันนี้ (22 มิ.ย.2564) นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ และประธานกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ(เอ็มโอยู) โครงการส่งเสริมการออม ระหว่างกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มนักเรียน นิสิต และนักศึกษา รู้จักการออม รู้จักการบริหารจัดการเงินและค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เพื่อใช้สำหรับวางแผน การเก็บออมตั้งแต่วัยเรียน จนถึงวัยทำงาน และในอนาคตจะได้มีเงินบำนาญที่เพียงพอเป็นหลักประกันในการใช้จ่าย
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวว่า ขณะนี้กองทุน กอช. มีสมาชิกอยู่ประมาณ 2.4 ล้านคน โดยส่วนมากผู้ที่เข้ามาในระบบออมเงินของ กอช. จะเป็นผู้ที่อยู่วัยทำงานและมีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ในขณะที่กลุ่มนักเรียนและนักศึกษาคิดเป็น 16% ของพอร์ตออมเงินทั้งหมดเท่านั้น ดังนั้นการร่วมมือกันครั้งนี้ก็หวังว่าจะเพิ่มจำนวนนักเรียนและนักศึกษาเข้าร่วมออมเงินของกองทุน กอช. มากขึ้น โดยตั้งเป้าให้เพิ่มสัดส่วนถึง 20-25% ของพอร์ต พร้อมยอมรับว่า จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การเพิ่มสมาชิกของ กอช. ทำได้ยาก สิ่งที่ทำได้คือ การให้สมาชิกที่มีอยู่ ออมเงินอย่างสม่ำเสมอ และไม่ลาออกจากกองทุน
สำหรับกองทุน กอช. เริ่มต้นออมเงินที่ 50 บาท โดยตั้งเป้าหมายกำหนดไว้ สูงสูด 13,200 บาทต่อปี ซึ่งทุกครั้งที่ส่งเงินออมสะสมกับ กอช. จะได้เงินสมทบเพิ่มให้ตามช่วงอายุ อายุ 15 – 30 ปี รับเงินสมทบเพิ่มจากรัฐ 50% ของเงินออม สูงสุดไม่เกิน 600 บาทต่อปี หรือ คิดเป็นดอกเบี้ยเงินฝากประจำประมาณ 4% อายุมากกว่า 30 – 50 ปี รับเงินสมทบเพิ่มจากรัฐ 80% ของเงินออม สูงสุดไม่เกิน 960 บาทต่อปี หรือคิดเป็นดอกเบี้ยเงินฝากประจำประมาณ 7% อายุมากกว่า 50 – 60 ปี รับเงินสมทบเพิ่มจากรัฐ 100% ของเงินออม สูงสุดไม่เกิน 1,200 บาทต่อปี หรือคิดเป็นดอกเบี้ยเงินฝากประจำประมาณ 9%
ด้านนายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า กยศ. มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาด้วยการให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ใน 4 ลักษณะ ได้แก่ นักเรียน นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์/ศึกษาในสาขา ที่เป็นความต้องการหลัก โดยตั้งแต่ปีการศึกษา 2539 - 2563 ช่วยเหลือไปแล้ววกว่า 5.9 ล้านราย โดยในแต่ละปีมีนักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืมประมาณ 600,000 ราย ส่วนในปีนี้เตรียมวงเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาไว้แล้ว 38,000 ล้านบาท
“การร่วมมือกันครั้งนี้ ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการศึกษาสามารถนำส่งเงินออมเป็นรายเดือนเข้ากองทุน กอช. ได้ขั้นต่ำครั้งละ 50 บาท เดือนละ 1 ครั้ง เมื่อผู้กู้ยืมออมเงินต่อเนื่องทุกเดือน นอกจากจะมีเงินเก็บเป็นของตัวเองแล้วยังสามารถนำไปสะสมชั่วโมงจิตสาธารณะได้ 1 ชั่วโมงต่อเดือนอีกด้วย” นายชัยณรงค์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :