นางสาวภัทรลดา สง่าแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ตามที่คณะกรรมการบริษัท PTTGC International (Netherlands) B.V. (GC Inter B.V.) แจ้งเกี่ยวกับการลงทุนในกลุ่มHigh Value Business (HVB) นั้น บริษัทเชื่อว่าการเข้าทำธุรกรรมจะส่งเสริมให้บริษัทได้รับประโยชน์ เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่มุ่งเน้นเข้าสู่ธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง
อย่างไรก็ตาม การจัดหาเงินทุนเพื่อสนับสนุนธุรกรรมการซื้อหุ้น Allnex Holding GmbH โดย GC Inter B.V. ครั้งนี้ บริษัทไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน เนื่องจากมีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอ ได้แก่ เงินสดในมือความสามารถในการจัดหาเงินกู้จากภายนอก ทั้งจากเงินจากสัญญาเงินกู้จากบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) (PTT) และสถาบันการเงิน นอกจากนี้ การเข้าซื้อกิจการบริษัทเป้าหมายที่มีผลประกอบการที่ดีและมูลค่า Synergy จะส่งผลให้ผลประกอบการรวมและฐานะการเงินของบริษัทแข็งแกร่ง และสามารถดำเนินธุรกิจและเจริญเติบโตไปตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ โดยบริษัทให้ความสำคัญในการดูแลรักษาระดับความน่าเชื่อถือทางการเงินให้ยังคงแข็งแกร่งต่อไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ PTTGC ได้แจ้งต่อตลท.ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท GC Inter B.V. เป็นบริษัทย่อยที่ PTTGC ถือหุ้นทั้งหมด มีมติอนุมัติให้เข้าซื้อหุ้นสามัญใน Allnex Holding GmbH จากAllnex Holdings S.a.r.l รวมทั้งสิ้น 100% ที่ราคา 3,575.9 ล้านยูโร หรือมูลค่าประมาณ 132,608 ล้านบาทพร้อมทั้งทำสัญญาเงินกู้จาก Allnex S.a.r.l มูลค่า 426.3 ล้านยูโร หรือมูลค่าประมาณ 15,809 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์ใน Allnex Holding Germany II GmbH (Holding II) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของAllnex Holding จาก WP INVEST GMBH เทียบเท่า 6% ของหุ้นทั้งหมดใน Holding II ที่ราคา 1,744 ยูโร หรือมูลค่าประมาณ 64,673 บาท ซึ่ง Allnex Holdings S.a.r.l และ Allnex S.a.r.l จะดำเนินการให้ WP Invest โอนหุ้นดังกล่าวให้ GC Inter B.V.
สำหรับการทำธุรกรรมดังกล่าวเป็นไปภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้นฉบับเดียวกันโดยที่สัญญาซื้อขายหุ้นได้ถูกลงนามเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 มูลค่ารวมทั้งสิ้น 4,002.2 ล้านยูโร หรือมูลค่าประมาณ 148,417 ล้านบาท ที่อัตราแลกเปลี่ยน 37.0836 บาท ต่อยูโร ซึ่งมูลค่าดังกล่าวอาจมีการปรับเปลี่ยนตามปัจจัยบางประการ บริษัทคาดว่าการทำธุรกรรมดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ จำกัด ระบุว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อการลงทุนดังกล่าว โดยเป็นการเพิ่มธุรกิจ Downstream ที่เป็น Coating ซึ่งมี Margin ที่ค่อนข้าง stable, Transaction คิดเป็น 9-10 เท่าEBITDA ถือว่าไม่แพง เมื่อเทียบ Industry ประมาณ 10-13 เท่า, ช่วย Improve EBITDA Margin ให้กับPTTGC ประมาณ 1-2% ซึ่ง Allnex มี EBITDA Margin ประมาณ 17% ในขณะที่ PTTGC มี EBITDA Margin 10-15%
ขณะที่ เงินสดในมือ PTTGC เพียงพอไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2564 มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นรวมประมาณ 100,000 ล้านบาท และไตรมาส 2 ปี 2564 จะมีเงินจาการขาย GPSC ประมาณ25,000 ล้านบาท และหลังจากเงินกู้จาก PTT D/E จะอยู่เพียง 0.6 เท่า ส่วนดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากเงินกู้PTT จะ offset กับกำไรของ Allnex ประมาณ 3,500 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ ยังคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย80.00 บาท โดยมองว่าผลประกอบการในปี 2564 จะฟื้นตัวแกร่งจากธุรกิจปิโตรเคมีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ด้านความเสี่ยงมาจาก Supply ที่ล้นตลาด ส่วน Demand ลดลงจากเศรษฐกิจ