ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 เคลื่อนไหวในแดนลบ รับแรงขายจากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ระดับสูง และตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด - 19 ในประเทศท่ีทรงตัวระดับสูง แม้มีแรงหนุนจากราคาน้ํามันดิบโลกท่ีข้ึนยืนเหนือ 75 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากคาดการณ์สต็อกน้ํามันดิบสหรัฐลดลง และมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจภายในประเทศเพิ่มเติมก็ตาม ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,563.66 จุด ลดลง 7.33จุด หรือเปลี่ยนแปลง 0.47% ด้วยมูลค่าซื้อขาย38,000.65 ล้านบาท ขณะที่ ดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,571.81 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,561.00 จุด
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
GPSC ปิดที่ 77.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,855.28 ล้านบาท
PTTGC ปิดที่ 56.50 บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,098.77 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 114.00 บาท ลดลง 2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,006.97 ล้านบาท
GUNKUL ปิดที่ 4.86 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 990.41 ล้านบาท
HANA ปิดที่ 74.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 885.84 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่กดดัชนีมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
DELTA ปิดที่ 576.00 บาท ลดลง 10.00 บาท มีผลต่อดัชนี -1.0851 จุด
AOT ปิดที่ 61.50 บาท ลดลง 0.75 บาท มีผลต่อดัชนี -0.932 จุด
PTTEP ปิดที่ 112.00 บาท ลดลง 2.00 บาท มีผลต่อดัชนี -0.6907 จุด
PTTGC ปิดที่ 56.50 บาท ลดลง 1.50 บาท มีผลต่อดัชนี -0.5883 จุด
SCB ปิดที่ 92.75 บาท ลดลง 1.75 บาท มีผลต่อดัชนี -0.5169 จุด