จับตา 6ปัจจัยสัปดาห์หน้าระหว่าง 26-30 ก.ค. 2564 และผลประชุมเฟด 27-28ก.ค.

25 ก.ค. 2564 | 04:15 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ค. 2564 | 11:35 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจับตา 6ปัจจัยสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่26-30 ก.ค. 2564 คาดค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70-33.20บาทต่อดอลลาร์ -ดัชนีหุ้นแนวรับที่ 1,530 และ 1,520 จุด

วิจัยกสิกรไทยจับตา 6ปัจจัยสัปดาห์หน้า “ผลการประชุมเฟด (27-28 ก.ค.) สถานการณ์โควิด 19 ในประเทศต่างประเทศ  มาตรการควบคุม/วัคซีนต้านโควิด และรายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนมิ.ย. ของธปท. -ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ-ข้อมูลกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. ของจีน ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/64 และอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน”

 

ธนาคารกสิกรไทยมองสัปดาห์ถัดไป ระหว่างวันที่ 26-30 ก.ค.2564 กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.70-33.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมเฟด (27-28 ก.ค.) สถานการณ์โควิด 19 ในประเทศต่างประเทศมาตรการควบคุม/วัคซีนต้านโควิด และรายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนมิ.ย. ของธปท. ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค. อัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก PCE/Core PCE Price Index ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนมิ.ย. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/64 (ครั้งที่ 1) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามข้อมูลกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. ของจีน ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/64 และอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนด้วยเช่นกัน  โดยเมื่อวันศุกร์ (23 ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.94 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (16 ก.ค.)

จับตา 6ปัจจัยสัปดาห์หน้าระหว่าง 26-30 ก.ค. 2564 และผลประชุมเฟด 27-28ก.ค.

สำหรับบริษัทหลักทรัพย์(บล.)กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทย (26-30ก.ค.2564)มีแนวรับที่ 1,530 และ 1,520 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,555 และ 1,565 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (27-28 ก.ค.) สถานการณ์โควิด 19 ทั้งในและต่างประเทศ ประเด็นเกี่ยวกับวัคซีนต้านโควิด 19 และมาตรการในการควบคุมสถานการณ์โควิด 19 ในประเทศ รวมถึงการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/64 ของบจ. 

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่  ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก PCE/Core PCE Price Index เดือนมิ.ย. ตลอดจนตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/64  ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/64 และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ค.ของยูโรโซน ตลอดจนกำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. ของจีน  ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 23 ก.ค. ดัชนี SETปิดที่ระดับ 1,545.10 จุด ลดลง 1.86% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 72,512.89 ล้านบาท ลดลง 6.30% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.56% มาปิดที่ 507.65 จุด

  จับตา 6ปัจจัยสัปดาห์หน้าระหว่าง 26-30 ก.ค. 2564 และผลประชุมเฟด 27-28ก.ค.