27 ก.ค. 64 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ความคืบหน้ามาตรการรัฐในการบรรเทาปัญหาหนี้สินประชาชน และการเข้าถึงสภาพคล่องของภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งในเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้การดำเนินการต้องครอบคลุมกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการในภาคการเกษตรด้วย โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ได้ออกมาตรการสินเชื่อ 2 โครงการ วงเงินรวม 9 หมื่นล้านบาท
คือ 1) โครงการสินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้แก่เกษตรกรหรือหรือบุคคลทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อการประกอบอาชีพเกษตร หรือลงทุนค้าขายที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก ให้กู้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 5 ปี ดอกเบี้ย 4% ต่อปีปลอดชำระต้นเงิน 2 ปีแรก และ
2) โครงการสินเชื่อนวัตกรรมดี มีเงินทุน วงเงินรวม 6 หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้ให้เกษตรกรหรือบุคคลทั่วไปที่มีทักษะและประสบการณ์ในการประกอบอาชีพนั้นๆ อาทิ กลุ่ม Smart Farmer เพื่อมีเงินไปฟื้นฟูหรือต่อยอดธุรกิจ ดอกเบี้ย 4% ต่อปี ระยะเวลาชำระคืน ไม่เกิน 10 ปี ปลอดชำระต้นเงิน 3 ปีแรก กําหนดชําระอย่างน้อย 2 เดือน นับจากงวดชําระเดิม
ทั้งนี้ แนวทางการช่วยเหลือขึ้นอยู่กับการได้รับผลกระทบและศักยภาพของลูกค้า ผู้สนใจแจ้งความประสงค์การเข้าร่วมโครงการได้ผ่านช่องทาง LINE Official : BAAC Family เว็บไซต์ https://www.baac.or.th หรือที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการและสถาบันเกษตรกร ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. – 15 ส.ค.นี้ และสำหรับลูกค้าเกษตรกรและบุคคล 19 ก.ค. -15 ธ.ค. ปีนี้เช่นกัน
คู่ขนานไปกับสองมาตรการดังกล่าว #กรมบังคับคดี #กระทรวงยุติธรรม ได้จัดโครงการ “บังคับคดีร่วมใจไกล่เกลี่ยช่วยเหลือเกษตกรถูกยึดทรัพย์จำนอง” เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าหนี้และลูกหนี้ได้เจรจากันด้วยความพึงพอใจ และเป็นธรรม ผู้ไกล่เกลี่ยกรมบังคับคดีเป็นคนกลางในการเจรจา โดยเจ้าหนี้ได้รับการชำระหนี้ และลูกหนี้ก็สามารถชำระหนี้ได้เช่นกัน ช่วยให้ลูกหนี้ไม่ถูกยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์ หรือนำไปขายทอดตลาดในที่สุด โครงการนี้มีจนถึง 15 ก.ย.นี้ ในพื้นที่กทม. และสำนักงานบังคับคดีจังหวัด/สาขาทั่วประเทศ
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการให้การช่วยเหลือประชาชนและบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดโควิด-19 มุ่งหวังให้ครอบคลุมกับประชนทุกกลุ่ม โดยพร้อมรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนและภาคเอกชนเพื่อให้การขับเคลื่อนฟื้นตัวเป็นไปอย่างมีส่วนร่วมและตรงจุดให้มากที่สุด สำหรับการประชุมครม.ในวันที่27ก.ค.นี้ จะมีการพิจารณาถึงมาตรการลดค่าเทอมของนักเรียน-นักศึกษาทั้งสถาบันรัฐและเอกชน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายครัวเรือนได้มาก
ที่มา : เพจรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล