นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 กรมธนารักษ์ได้ประกาศประมูลสิทธิการเช่าอาคารราชพัสดุบ้านพระประเสริฐวานิช (วังค้างคาว) พร้อมที่ดินนอกที่ตั้งตัวอาคาร ซึ่งเป็นที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.2723 (บางส่วน) โฉนดที่ดินเลขที่ 3249 แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ประมาณ 0-3-29 ไร่ มีกำหนดระยะเวลาการเช่า 30 ปี
สำหรับคุณสมบัติผู้เข้าประมูลคือ เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลตามกฎหมายไทย และจะต้องไม่เคยเป็นผู้ทิ้งงานก่อสร้างของทางราชการตามหนังสือแจ้งเวียนรายชื่อผู้ทิ้งงานของคณะกรรมการว่า ด้วยการพัสดุกรมบัญชีกลางมาก่อน
สามารถติดต่อขอซื้อเอกสารผังประมูลในราคาชุดละ 1,500 บาท ณ ส่วนรายได้ กองบริหารที่ราชพัสดุกรุงเทพมหานคร กรมธนารักษ์ ตั้งแต่วันที่ 2-31 สิงหาคม 2564 ทุกวันในเวลา 09.00 – 15.00 น.เว้นวันหยุดราชการ
ทั้งนี้ผู้เข้าประมูลสามารถรับฟังคำชี้แจงรายละเอียดการประมูลในวันที่ 9 กันยายน 2564 ณ กรมธนารักษ์ เวลา 10.00 น. โดยเสนอเงินค่าธรรมเนียมการจัดให้เช่าไม่ต่ำกว่า 9,475,200 บาท และผู้เข้าประมูลจะต้องวางหลักประกันซอง 947,520 บาท พร้อมกับการยื่นซองประมูล
จากนั้นผู้เข้าประมูลต้องยื่นซองประมูลต่อคณะกรรมการ ณ ห้องประชุม 702 อาคารกรมธนารักษ์ ในวันที่ 23 กันยายน 2564 ตั้งแต่เวลา 09.00 ถึง 10.00 น. และคณะกรรมการจะปิดรับซองประมูล ในเวลา 10.00 น. และจะเปิดซองประมูล เวลา 10.30 น. ในวันและสถานที่เดียวกัน
สำหรับวังค้างคาวนั้นคือ บ้านพระประเสริฐวานิช (เจ้าสัวเขียว เหล่าประเสริฐ) เป็นอาคารเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยา เดิมเป็นกรรมสิทธิ์ของพระประเสริฐวานิช ต่อมาบ้านและที่ดินตกเป็นของนายเว้น (บุตร) และได้บริจาคให้กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2464
อาคารดังกล่าวสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 มีลักษณะและรูปแบบเป็นกลุ่มอาคารเก๋งจีน 2 ชั้น ก่ออิฐถือปูน หลังคามุงกระเบื้อง หน้าจั่วปูนปั้น ประกอบด้วย อาคารสองหลังตั้งขนานกัน หันหน้าออกแม่น้ำ มีระเบียงเชื่อมถึงกัน ล้อมลานโล่ง ตรงกลางขนาดใหญ่ พื้นที่บริเวณใต้ถุนอาคารถูกแบ่งเป็นสัดส่วน ทั้งสองฝั่งเพื่อใช้ประโยชน์เป็นที่เก็บสินค้า
ระหว่างปี พ.ศ. 2450-2460 บริษัท หลักสุงเฮง ของนายเหียกวงเอี่ยม อดีตประธานหอการค้าไทย-จีน เช่าอาคารและพื้นที่เป็นสำนักงานและท่าเรือซึ่งดำเนินกิจการรับ-ส่งสินค้าทางเรือ จากนั้น ห้างฮั่วจั่วจั่นได้มาขอเช่าต่อ โดยใช้พื้นที่ใต้ตึกเป็นที่เก็บสินค้า เมื่อเลิกเช่าตัวอาคารจึงถูกปิดร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์มาหลายสิบปี ทำให้มีค้างคาวเข้ามาทำรังและอาศัยอยู่บริเวณใต้ตึกเป็นจำนวนมาก จึงอาจเป็นสาเหตุทำให้มีคนเรียกอาคารเก่าหลังนี้ว่า “วังค้างคาว”
ต่อมาปี พ.ศ.2561 กรมศิลปากรได้ประกาศรายชื่อโบราณสถานในเขตกรุงเทพมหานครตามนัยราชกิจจานุเบกษา เล่ม 135 ตอนพิเศษ 165 ง ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2561 โดยมีบ้านพระประเสริฐวานิช(เขียว) (วังค้างคาว) ในประกาศดังกล่าว