นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน)หรือ UAC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทฯมีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัท 133.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.93% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัท 131.32 ล้านบาท โดย Gross Margin อยู่ที่ระดับ 18.61% และ EBITDA อยู่ที่ 219.88 ล้านบาท คิดเป็น 62.82% จากเป้าหมายปี 2564 ที่ 350 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 374.92 ล้านบาท โดยกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 68.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.56% มากกว่างวดเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรักษาความคงที่ของ Gross Margin ไว้ได้ใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ที่ 18.23%
ทั้งนี้เป็นผลจากการฟื้นตัวของธุรกิจเทรดดิ้ง ตามภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงต้นปีที่ยังคงเป็นปัจจัยเชิงบวก ส่งผลให้มีการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น จาก Backlog ของธุรกิจเทรดดิ้งที่มีเข้ามาในช่วงครึ่งปีแรกกว่า 250 ล้านบาท และคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีกราว 230 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลังนี้
บริษัทฯยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรสุทธิ และการเงินปันผลปันผลงวดครึ่งปีหลัง 2563 จากบริษัทร่วมทุน บจ.บางจากไบโอฟูเอล (BBF) จำนวน 119.92 ล้านบาท ซึ่งได้ประโยชน์จากการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทำให้การจำหน่ายและราคาขายเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น จากความต้องการใช้นำมันดีเซลในภาคการขนส่งภาคการเกษตร ประกอบกับความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบในช่วงที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับสูงขึ้น
ส่วนภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลัง 2564 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าสร้างโอกาสทางธุรกิจ โดยการนำ Business model ใหม่ อาทิ การทำ Consulting Service พร้อมทั้งพยายามรักษาการให้บริการและฐานะลูกค้าให้ดีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งพิจารณาการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ภายใต้นโยบายการลงทุนด้าน Energy Efficiency และ Bio Circular Economy ทั้งในประเทศ และกลุ่มประเทศ CLMV
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนของบริษัทฯ ขณะนี้ได้ผ่านคุณสมบัติและข้อเสนอขอขายไฟฟ้าด้านเทคนิคของการไฟฟ้าภูมิภาคแล้ว จำนวน 2 โครงการ ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมราว 6 เมกะวัตต์ และยังรอการพิจารณาอีก 4 โครงการประมาณ 12 เมกะวัตต์ หลังจากที่บริษัทฯ ได้ยื่นอุทธรณ์ไปก่อนนี้ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลชัดเจนภายในเดือนกันยายนนี้
สำหรับความคืบหน้าโครงการจัดการขยะ เพื่อผลิตพลังงานทดแทนและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ที่นำกลับมาใช้ใหม่ที่นครเวียงจันทน์ สปป.ลาว นั้น การลงทุนในเฟสแรกในโครงการบริหารจัดการขยะได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 98% ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จได้ตามแผนที่วางไว้ในปี 2564 นี้ จากนั้นจะเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าขยะ ขนาด 6 เมกะวัตต์ในเฟสที่ 2 เป็นลำดับต่อไป