ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงกว่า 2% นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาอาจขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและทั่วโลก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,101.85 จุด ลดลง 106.66 จุด หรือ -0.30% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,432.35 จุด ลดลง 4.17 จุด หรือ -0.09% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,860.18 จุด เพิ่มขึ้น 24.42 จุด หรือ +0.16%
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวลง นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.48% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงกว่า 2% เมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าการที่หลายประเทศซึ่งรวมถึงจีน ประกาศใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลาตา จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
หุ้นกลุ่มเรือสำราญและกลุ่มสายการบินต่างก็ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาอาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างล่าช้า
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.30% เมื่อคืนนี้
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ซึ่งพบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน พุ่งขึ้น 590,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.1 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนธ.ค.2543 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.27 ล้านตำแหน่ง
นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันพุธ และจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ในวันพฤหัสบดี
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนก.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB), ผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยในไตรมาส 2/2564, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน