เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) หรือ THG ได้ทำหนังสือถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เพื่อชี้แจงข้อมูลกรณีนําเข้าวัคซีนตามที่สํานักงาน ก.ล.ต. สอบถาม
โดย THG ระบุว่า ตามที่สํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สํานักงาน ก.ล.ต.”) ได้มีหนังสือ ฉบับที่ กลต.จท.1 2221/2564 เรื่อง ขอให้ชี้แจงข้อมูล ฉบับลงวันที่ 4 สิงหาคม 2564 ถึงท่านประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน)(“บริษัทฯ” หรื อ “THG”) เพื่อให้บริษัทฯ จัดทําคําอธิบายหรือคําชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับแผนการทําสัญญาร่วมกับกระทรวงกลาโหมเพื่อนําเข้าวัคซีนไฟเซอร์ การถูกริบเงินมัดจํา และความ คืบหน้าของการดําเนินงาน
รวมทั้งส่งมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และเปิดเผยคําชี้แจงผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯ นอกจากนี้ ยังขอให้บริษัทฯ ชี้แจงความคืบหน้าเกี่ยวกับสัญญากับตัวแทน ในสหรัฐอเมริกาเพื่อสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 นั้น
บริษัทฯ ขอเรียนดังต่อไปนี้
1. นายแพทย์บุญ วนาสิน และบริษัทฯ ไม่ได้เป็นผู้ให้ข้อมูล แก่สื่อออนไลน์แห่งหนึ่งตามที่กล่าวอ้าง ว่า นายแพทย์บุญ วนาสิน ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการนําเข้าวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ร่วมกับกระทรวงกลาโหม โดยจะมีการทําสัญญาร่วมกัน และระบุว่าจะสามารถนําวัคซีนโควิด-19 ชนิดmRNA เข้ามาภายในเดือนสิงหาคม แต่อย่างใด
โดยนายแพทย์บุญ วนาสิน และบริษัทฯ ไม่ทราบถึงแหล่งที่มาของการให้ข้อมูลดังกล่าว และ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 บริษัทฯ ได้ดําเนินการแจ้งให้สํานักงานข่าวดังกล่าวแก้ไขข้อมูลที่ นายแพทย์บุญ วนาสิน และบริษัทฯ ไม่ได้เป็นผู้ให้ข้อมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้วรายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 สารสนเทศที่เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่อง ชี้แจงการนําเข้าวัคซีนโควิด-19 เทคโนโลยี mRNA ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2564
ทั้งนี้ บริษัทฯได้ทําสัญญาความร่วมมือกับกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งหน่วยงานของรัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยกําหนดให้บริษัทฯ เป็นพันธมิตรฝ่ายหนึ่ง มีหน้าที่เบื้องต้นในฐานะผู้นําเข้าวัคซีนโควิด-19 และสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการ เอกสารลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2564
2. บริษัทฯ ไม่ได้วางมัดจําหรือถูกริบมัดจําที่วางไว้ (ไม่ว่าจะเป็นในรูปของเงินสดหรือทรัพย์สินอื่นใด) ต่อ บุคคล หน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานใดดังที่เป็นข่าว
3. สําหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับสัญญากับตัวแทนในสหรัฐอเมริกา (“ตัวแทนผู้จําหน่ายฯ”) เพื่อสั่งซื้อวัคซีน โควิด-19 (จํานวน 20-40 ล้านโดส)
บริษัทฯ ขอเรียนว่า บริษัทฯ ได้รับเอกสารลงนามจากตัวแทนผู้จําหน่ายฯ ดังนี้
1) หนังสือยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทผู้ผลิตวัคซีน mRNA และ ตัวแทนผู้จําหน่ายฯ ซึ่งออกโดยสํานักงานกฎหมายของประเทศ สหรัฐอเมริกา
2) ใบสั่งซื้อ (Pro forma Invoice)
3) สัญญาจะซื้อจะขาย (Sale and Purchase Agreement)
4) ข้อตกลงการชําระเงิน (Escrow Agreement)
โดยบริษัทเอกชนที่ถือหุ้นใหญ่โดยหน่วยงานรัฐ เป็นพันธมิตรฝ่ายไทย ที่มีหน้าที่ลงนามในเอกสารในฐานะคู่สัญญาจะซื้อจะขายในเอกสารข้างต้น บริษัทฯ ได้ว่าจ้างสํานักงานกฎหมายทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศเพื่อดําเนินการตรวจสอบความน่าเชื่อถือความถูกต้อง และประเมินความเสี่ยงด้านกลไกการชําระเงินของเอกสาร โดยได้ต่อรองเพื่อลดความเสี่ยงในการทําธุรกรรมของพันธมิตรและบริษัทฯ
ทั้งนี้ พันธมิตรทุกฝ่ายได้พิจารณาร่วมกันชะลอ การเข้าทําธุรกรรมกับกับตัวแทนจําหน่ายฯ รายนี้ เนื่องจากไม่สามารถลดความเสี่ยงที่มีต่อพันธมิตรที่มีหน้าที่ลงนามในสัญญาได้
อย่างไรก็ตาม พันธมิตรและบริษัทฯ ตามสัญญาความร่วมมือยังดําเนินการติดต่อตัวแทนผู้จําหน่ายรายอื่นใน ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณาด้วยความระมัดระวังเกี่ยวกับความเสี่ยงทางธุรกรรมเป็นสําคัญ ทั้งนี้ชนิดวัคซีน จํานวน และระยะเวลาการนําเข้ายังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด
เนื่องจากตลาดโลกมีความต้องการวัคซีนสูงจึงมีการเปลี่ยนแปลงของเงื่อนไขผู้ขายอยู่ตลอดเวลาระหว่างการพิจารณาเอกสารของฝั่งผู้ซื้อ
ทั้งนี้ พันธมิตรและบริษัทฯ ยังเปิดรับพันธมิตรที่มีอุดมการณ์เดียวกันมาร่วมกันดําเนินการหาวัคซีนมาให้ได้เร็วที่สุด
บริษัทฯ หวังว่าความพยายามด้วยความตั้งใจดําเนินการของบริษัทจะเป็นส่วนหนึ่งช่วยให้ประเทศได้ฝ่าวิกฤติ และประชาชนชาวไทยสามารถเข้าถึงวัคซีนเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด -19 รวมถึงไวรัสกลายพันธ์ที่กําลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้
หากสํานักงาน ก.ล.ต. ประสงค์ให้จัดส่งข้อมูลหรือเอกสารเพิ่มเติมประการใด กรุณาแจ้งมายังบริษัทฯ