ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้(16 ส.ค.) โดยดาวโจนส์ และ S&P500 ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่ปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี (defensive stocks) เช่นหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคและกลุ่มสาธารณูปโภค ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทวอลมาร์ท และโฮม ดีโปท์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,625.40 จุด เพิ่มขึ้น 110.02 จุด หรือ+ 0.31% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,479.71 จุด เพิ่มขึ้น 11.71 จุด หรือ +0.26% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,793.76 จุด ลดลง 29.14 จุด หรือ -0.20%
นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นในช่วงท้ายตลาด ซึ่งช่วยให้ดัชนีดาวโจนส์สามารถปิดทำนิวไฮได้อีกครั้ง หลังจากในช่วงแรก ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงหลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งรวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกที่ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงในเดือนก.ค. รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในอัฟกานิสถาน หลังจากกลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงคาบูล
นักลงทุนเข้าหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคและกลุ่มสาธารณูปโภคซึ่งถือเป็นหุ้นที่ปลอดภัย โดยหุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) เพิ่มขึ้น 0.72% หุ้นเป๊ปซี่โค โค เพิ่มขึ้น 0.98% หุ้นฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล บวก 0.79% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี เพิ่มขึ้น 1.71% หุ้นพีจีแอนด์อี คอร์ปอเรชั่น บวก 0.55%
หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นไฟเซอร์ บวก 0.87% หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เพิ่มขึ้น 0.9% หุ้น Abbvie เพิ่มขึ้น 1.67% หุ้นเอชซีเอ เฮลธ์แคร์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงพยาบาลรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.37% หุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส เพิ่มขึ้น 1.33% หุ้นอิไล ลิลลี่ (Eli Lilly) เพิ่มขึ้น 2.23%
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.250% เมื่อคืนนี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรของภาคธนาคารในสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ในการประชุมดังกล่าว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ รายงานการประชุมเฟดวันที่ 27-28 ก.ค., ยอดค้าปลีกเดือนก.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนส.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), การเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีการผลิตเดือนส.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย