นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) (PTT) เปิดเผยผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2564 เปรียบเทียบกับครึ่งแรกของปี 2563 กลุ่มปตท. มีรายได้จากการขายจำนวน 1,011,093 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 186,201 ล้านบาท หรือ 23% จากเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ และ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ทั้งจากราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการและราคาของ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีที่ปรับตัวสูงขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวจากปีก่อน
ทั้งนี้กำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้(EBITDA) 216,163 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129,570 ล้านบาท หรือมากกว่าร้อยละ 100.0 ตามรายได้ที่ปรับเพิ่มขึ้น และธุรกิจการกลั่นที่มีกำไรสต๊อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในครึ่งแรกของปี 2564 ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น เทียบกับขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้กลุ่ม ปตท. มีกำไรสุทธิในครึ่งแรกของปี 2564 จำนวน 57,166 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46,667 ล้านบาท หรือมากกว่า 100%
"กลุ่ม ปตท. ยังคงลงทุนต่อเนื่อง แม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เพื่อกระตุ้นลมหายใจเศรษฐกิจ ด้วยวงเงินลงทุนของกลุ่ม ปตท. ในช่วง 5 ปีข้างหน้า (ปี 2564-2568) รวม 865,000 ล้านบาท (ไม่รวมโครงการที่กำลังอยู่ระหว่างการลงทุนหรือแสวงหาโอกาสในการลงทุน) และจัดเตรียมงบลงทุนของกลุ่ม ปตท. ในอนาคต ในระยะ 5 ปีข้างหน้าอีก 784,000 ล้านบาท ตามกรอบวิสัยทัศน์ Powering Life with future energy and beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต"
ทั้งนี้ ได้ปรับสัดส่วนการลงทุนให้สอดคล้องกับทิศทางอนาคต มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ พร้อมเป็น Regional LNG Hub เข้าสู่ธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต รุกธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ลงทุนเตรียมพร้อมรองรับกระแสยานยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนเข้าสู่ธุรกิจที่มีศักยภาพตามทิศทางโลก อาทิ มุ่งสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง(High Value Business) ในธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น และมุ่งขยายการค้าปลีกที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก รวมถึงขยายการลุงทุนในธุรกิจ Life Science (ยา nutrition และอุปกรณ์ทางการแพทย์) ดึงความเชี่ยวชาญจากต่างประเทศ จับมือพันธมิตรทั้งในไทยและต่างชาติ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ปตท. ร่วมเคียงข้าง ดูแลสังคมไทยด้วย “โครงการลมหายใจเดียวกัน” ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งมอบเครื่องช่วยหายใจ 400 เครื่อง พร้อมออกซิเจนเหลว แก่หน่วยงานรัฐ และโรงพยาบาลทั่วประเทศกว่า 300 แห่ง สนับสนุนโรงพยาบาลสนาม 7 แห่ง และสนับสนุนหน่วยฉีดวัคซีนเคลื่อนที่เชิงรุก 4 พื้นที่ความเสี่ยงสูงในกรุงเทพมหานคร จัดหาและนำเข้ายาเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) บริจาคให้ภาครัฐพร้อมเตรียมนำเข้าต่อเนื่อง ขยายระยะเวลาช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม (LPG) แก่ผู้มีรายได้น้อยกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนเงิน 100 บาท/คน/เดือน ต่อไป อีก 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 และล่าสุดจัดตั้งหน่วยคัดกรองและโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End) ต้นแบบความร่วมมือภาครัฐ ภาคธุรกิจ และพันธมิตรทางการแพทย์ รวมวงเงินช่วยเหลือกลุ่ม ปตท. ตลอดช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นับตั้งแต่ปี 2563 ที่ผ่านมา จำนวน 1,700 ล้านบาท