ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัดเปิดเผยว่า ตลาดประกันภัยบ้านเมื่อปีที่ผ่านมามีการถือครองกรมธรรม์ประกันภัยบ้านเพียง 3 ล้านหลังคาเรือน หรือเพียง 12% จากบ้านอยู่อาศัยในไทยทั้งหมดกว่า 27 ล้านหลังคาเรือน
จากการสำรวจข้อมูลของทีม Data TQM พบว่า มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนถึงเงื่อนไขความคุ้มครองของประกันภัยบ้าน โดยคนไทยส่วนมากยังเข้าใจว่า ประกันภัยบ้านคือ ประกันอัคคีภัย คุ้มครองเฉพาะเรื่องของไฟไหม้ จึงเห็นเป็นเรื่องไกลตัวและไม่ให้ความสำคัญในการทำประกันมากนัก ซึ่งยังเป็นความเข้าใจที่ไม่ครอบคลุมทั้งหมด
จากภาพรวมการมีประกันภัยบ้านของคนไทยทำให้ TQM เห็นถึงโอกาสในการรุกเข้าไปเปิดตลาด โดยใช้กลยุทธ์การออกแบบประกันภัยบ้านแนวใหม่ ผ่านแนวคิด ‘ประกันบ้าน ที่เป็นมากกว่าประกันอัคคีภัย’ เพื่อเจาะกลุ่มคนที่ห่วงบ้านทุก Segment ด้วยผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองหลากหลายและแตกต่างกันไปตามความเสี่ยงของบ้านแต่ละหลัง
อาทิ กลุ่มพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติทางธรรมชาติ กลุ่มพื้นที่เสี่ยงที่อยู่ใกล้เขตโรงงานอุตสาหกรรม กลุ่มเสี่ยงการโจรกรรม และอื่นๆ ซึ่งในระยะแรกจะมุ่งเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ผู้บริโภค ถึงความคุ้มครองของประกันภัยบ้านที่มีมากกว่าความคุ้มครองอัคคีภัย และยังสามารถเลือกความคุ้มครองตามความเสี่ยงภัยที่เหมาะสมกับบ้านได้ด้วยตนเอง
ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัดกล่าวว่า ‘TQM Home Insurance’ เป็นประกันภัยบ้านแนวใหม่ที่มีแผนประกันภัยให้ลูกค้าได้เลือกหลากหลาย โดยลูกค้าเลือกได้ว่าต้องการแผนประกันภัยแบบใดเพื่อให้คุ้มครองครอบคลุมความเสี่ยงภัยที่อาจเกิดขึ้นต่อบ้านตนเอง
มีการนำ InsurTech มาใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาและสร้าง เว็บไซต์ เข้ามาช่วยคำนวณว่า บ้านแต่ละหลังมีความเสี่ยงภัยเรื่องใดบ้าง เพื่อเป็นด่านแรกในการคัดกรองให้คนห่วงบ้านสามารถประเมินภัยของพื้นที่บ้านตนเองก่อนตัดสินใจทำประกัน
นอกจากนี้ยังเป็นการประกาศความเป็นผู้นำด้าน InsurTech ซึ่งจะนำมาใช้ในการพัฒนาเครื่องมือในการทำงานของ TQM ให้ ครอบคลุมในทุก ๆ ผลิตภัณฑ์ประกันภัย โดย home.tqm.co.th ได้ทำงานร่วมกันกับ Baannia ซึ่งจะให้ข้อมูลขนาดพื้นที่บ้านแต่ละหลัง เพื่อให้ลูกค้าที่ไม่ทราบพื้นที่บ้านสามารถซื้อประกันบ้านได้ง่ายยิ่งขึ้น
พร้อมกับ Nostra ที่จะให้ข้อมูลสถิติภัยต่าง ๆ ในประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าทราบได้ว่าบริเวณรอบ ๆ บ้านของลูกค้ามีความเสี่ยงภัยอะไรบ้าง ซึ่งทำให้เทคโนโลยีนี้เติมเต็มและตอบสนองกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
ในแพลตฟอร์มจะมีประกันบ้านแนวใหม่นี้ให้เลือกมากกว่า 100 แผน เจาะกลุ่ม ‘คนห่วงบ้าน’ 3 ห่วงหลัก คือ กลุ่มหัวหน้าครอบครัวที่เป็นห่วงบ้านและคนในครอบครัว กลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์ชอบท่องเที่ยวไม่ค่อยอยู่บ้านเป็นห่วงบ้าน ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรม ไฟไหม้ หรือภัยพิบัติต่าง ๆ และกลุ่มคนรุ่นใหม่ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ ห่วงทรัพย์สินหรือของมีค่าภายในบ้าน
“ประกันภัยบ้านแนวใหม่นี้ครอบคลุมทุกความเสี่ยงของคนทุกกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน ทั้ง คุ้มครองภัยที่เกิดจากดิน น้ำ ลม ไฟ อาทิ ฟ้าผ่า ระเบิด น้ำรั่ว น้ำท่วม ลมพายุ แผ่นดินไหว คุ้มครองภัยโจรกรรม ลัก ชิง ปล้น งัดแงะ คุ้มครองทรัพย์สินประเภทเงินสด หรือ ประกันภัยเงิน คุ้มครองกระจกแตกจากอุบัติเหตุ ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก คุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุภายในที่พักอาศัยของผู้เอาประกันภัย"ดร.นภัสนันท์กล่าว
จึงนับเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับคนไทยและวงการประกันภัยบ้านที่ยังไม่เคยมีมาก่อน พร้อมตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าประกันภัยบ้านแนวใหม่ โดยภายใน 5 ปี ได้เบี้ยประกันภัยรวมที่ 15,927 ล้านบาท