ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกดิ่งลงอย่างหนักในเดือนก.ค. อันเนื่องมาจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,343.28 จุด ลดลง 282.12 จุด หรือ -0.79% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,448.08 จุด ลดลง 31.63 จุด หรือ -0.71% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,656.18 จุด ลดลง 137.58 จุด หรือ -0.93%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ร่วงลง 1.1% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.3% โดยยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา รวมทั้งการที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลได้หมดอายุลง
หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวลง นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มหุ้นสินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary) ร่วงลง 2.68%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 5 จุด สู่ระดับ 75 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2563 โดยมีสาเหตุจากสต็อกบ้านที่มีจำกัด การขาดแคลนแรงงาน รวมทั้งการพุ่งขึ้นของราคาบ้าน และต้นทุนในการก่อสร้าง
การร่วงลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐได้ฉุดหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านและกลุ่มก่อสร้างปรับตัวลงด้วย
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ได้รับแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 3.09% หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เพิ่มขึ้น 0.92% หุ้น Abbvie พุ่งขึ้น 1.06% หุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส ปรับตัวขึ้น 0.83% หุ้นอิไล ลิลลี่ (Eli Lilly) เพิ่มขึ้น 1.03%
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำเดือนก.ค.ในวันนี้ รวมทั้งการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมดังกล่าว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งรวมถึงตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีการผลิตเดือนส.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย