การเริ่มต้นวางแผนการเงินเพื่อเกษียณในวัย 30 ต้นๆ ถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสม เพราะมีข้อได้เปรียบจากการมีเวลาในการลงทุนระยะยาว มีเวลาสั่งสมประสบการณ์ และมีโอกาสเริ่มต้นใหม่หากการลงทุนพลาดพลั้งไป นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงที่มีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนและเริ่มสร้างความมั่นคงเพิ่มพูนความมั่งคั่งเพื่ออนาคต เป็นวัยเริ่มต้นสร้างครอบครัวแถมในช่วงวัยนี้ก็มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ หรือหากใครแต่งงานก็ต้องมีค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว ค่าเลี้ยงดูลูก เป็นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้จะพบว่าคนวัย 30 – 40 ปี มีโอกาสที่จะลดความสำคัญของการวางแผนการเงินเพื่อเกษียณ หรือเหลือเงินที่จะแบ่งมาลงทุนในระดับต่ำ จึงเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ดังนั้น ควรแบ่งเงินประมาณ 15 – 20% ของรายได้ สำหรับการวางแผนการเงินเพื่อเกษียณ
ตัวอย่างเช่น ถ้าตั้งใจที่จะออมเงินให้ครบ 1 ล้านบาท สำหรับไว้ใช้หลังเกษียณ โดยสมมติว่าลงทุนแล้วได้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ยเท่ากับ 5% ต่อปี
จัดพอร์ตลงทุน
การจัดพอร์ตลงทุนสำหรับการวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณของคนช่วงอายุ 30 – 40 ปี ควรเป็นพอร์ตแบบผสม (Balance Portfolio) และให้พิจารณาว่าตัวเองรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน หรือในช่วงแรกๆ เช่น อายุ 30 ปีต้นๆ ให้น้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมาก เพื่อทำให้พอร์ตมีการเติบโตได้เร็ว เพราะยังมีเวลาลงทุนอีกนาน และเมื่ออายุมากขึ้นก็ปรับพอร์ตให้มีความเสี่ยงลดต่ำลง รวมถึงใช้สถานะของตัวเองในการจัดพอร์ตลงทุน เช่น โสด แต่งงานและมีลูก แต่งงานแต่ยังไม่มีลูก เป็นต้น
ตัวอย่าง การจัดพอร์ตลงทุน
• พอร์ตลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง เหมาะสำหรับอายุ 30 ปีต้นๆ และเป็นโสด ตัวอย่างเช่น หุ้น/กองทุนรวมหุ้นไทย 25 กองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ 15% กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์/REITS/กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน 20% กองทุนรวมผสม 10% กองทุรวมตราสารหนี้ 15% ทองคำ 5% เงินฝาก 10%
• พอร์ตลงทุนที่มีความเสี่ยงปานกลาง เหมาะสำหรับอายุประมาณ 35 ปี เป็นโสดที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง หรือผู้ที่แต่งงานแต่ยังไม่มีลูก ตัวอย่างเช่น หุ้น/กองทุนรวมหุ้นไทย 20% กองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ 10%กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์/REITS/กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน15% กองทุนรวมผสม 15% กองทุรวมตราสารหนี้ 20% ทองคำ 5% เงินฝาก 15%
• พอร์ตลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุใกล้ 40 ปี หรือผู้ที่แต่งงานและมีลูก ตัวอย่างเช่น หุ้น/กองทุนรวมหุ้นไทย15% กองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ 5% กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์/REITS/กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน 15% กองทุนรวมผสม15% กองทุรวมตราสารหนี้ 25% ทองคำ 5% เงินฝาก 20%
หลักการวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณ ที่สำคัญอย่าไปกังวลกับอนาคตมากจนเกินไป เพราะไม่มีใครบอกได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ดังนั้น ต้องแบ่งเงินเพื่อลงทุนสำหรับวัยเกษียณให้สอดคล้องกับการดำรงชีวิตในปัจจุบัน ที่สำคัญควรเริ่มต้นวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณตั้งแต่อายุน้อยๆ โอกาสมีชีวิตวัยเกษียณที่มีความสุขมีเงินใช้ไปจนหมดอายุขัยไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน
ที่มา : เพจธนาคารไทยพาณิชย์