กนง.ชี้ 2ปัจจัย “การกระจายวัคซีนที่ปรับตัวดีขึ้นมาก และผ่อนคลายมาตรการควบคุมเร็วกว่าที่คาด” หนุนคาดการณ์จีดีพีไทยฟื้นตัวช่วงที่เหลือปีนี้และปีหน้าปรับเพิ่มเป็น 3.9%อีกครั้ง พร้อมปรับไส้ในการบริโภคขยายตัว 5.7% จากที่ไม่เติบโต ดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกิน 1พันล้านดอลลาร์ จำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 6ล้านคนจาก 2แสนคน
นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ครั้งที่ 6/2564 ในวันที่ 29กันยายน 2564 มีมติเอกฉันท์ให้ "คง"อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50%ต่อปี โดยที่ประชุมกนง.ได้ปรับประมาณการไส้ในของเศรษฐกิจปี2564 และ ปี 2565 แต่ยังคงแนวโน้มการเติบโตใกล้เคียงตามที่คาดไว้ 0.7%และ 3.9% ตามลำดับ
“ไตรมาส 3 น่าจะเป็นจุดที่เศรษฐกิจต่ำสุด หลังจากนั้นเศรษฐกิจจะทยอยฟื้นตัว และการฟื้นตัวในไตรมาส 4ยังมีความไม่แน่นอน ทั้งด้านบวกและลบ โดยมีปัจจัยบวก คือ การอั้นของอุปสงค์หรือการอุปโภคบริโภคอาจจะมีด้านบวกมากกว่าที่ได้คาดไว้ อย่างไรก็ตามก็ยังมีปัจจัยด้านลบเช่น สถานการณ์ระบาดหรือการควบคุมการระบาดอาจจะช้ากว่าที่คาดไว้ เพราะฉะนั้นเศรษฐกิจไทยยังมีหลายปัจจัยในไตรมาสที่4 และปีหน้าก็ยังมีความไม่แน่นอนสูง”
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยแม้จะปรับตัวดีขึ้น แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ในระยะต่อไป จึงต้องติดตามความเสี่ยงต่างๆ อย่างใกล้ชิด สถานการณ์ระบาดโควิด การกลายพันธุ์ของไวรัส มาตรการควบคุมการระบาด นโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ความเชื่อมั่นของภาคเอกชนและธุรกิจหลังการผ่อนคลายมาตรการควบคุมและความต่อเนื่องจากแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐด้านต่างๆ และที่สำคัญ ความคลี่คลายของปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักต์เตอร์และตู้คอนเทนเนอร์ ของภาคการผลิต
“ ปีนี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 0.7% และปีหน้าขยายตัว 3.9% โดยช่วงระบาดระลอก 3 ก่อนเดลตาจะระบาดและมีมาตรการควบคุม เมื่อเปรียบเทียบประมาณการครั้งนี้(29ก.ย.) กับเดือนส.ค. ใกล้เคียงกัน แต่สังเกตุผลกระทบของการระบาดไตรมาสสามของรอบที่สามรุนแรงกว่าที่คาดไว้ แต่การกระจายวัคซีนที่ปรับตัวดีขึ้นมาก รวมถึงผ่อนคลายมาตรการควบคุมเร็วกว่าที่คาดส่งผลให้คาดกว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้า”นายทิตนันท์กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้กนง.ยังคงคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้อยู่ที่ 0.7% แต่ได้ปรับคาดการณ์จีดีพีปีหน้าขึ้นมาเป็น 3.9%อีกครั้งซึ่งเท่ากับระดับเดือนมิถุนายน หลังจากเดือนสิงหาคมได้ปรับลดคาดการณ์ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.7% เนื่องจากการกระจายวัคซีนที่ปรับตัวดีขึ้นมาก รวมถึงผ่อนคลายมาตรการควบคุมเร็วกว่าที่คาดส่งผลให้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้า
การประชุมกนง.ครั้งนี้ (ก.ย.)ได้ปรับไส้ในประมาณการเศรษฐกิจเทียบเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา การฟื้นตัวของเศรษฐกิจช่วงต่อไปมาจากอุปสงค์ในประเทศคือ การบริโภคภาคเอกชน โดยในปีหน้าจะ เห็นการบริโภคภาคเอกชนกลับมาเติบโตได้ 5.7%จากปีนี้ไม่เติบโต(0.0%) ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเทียบเดือนมิถุนายนปรับตัวลงเล็กน้อยเป็น 1.0%ซึ่งอยู่ในกรอบล่างของเป้าหมายการดำเนินนโยบายการเงิน ส่วนปีหน้า 1.4%ปรับขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ในกรอบล่างเช่นกัน อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน0.2%ปีหน้า 0.3%คงอยู่ในระดับอ่อนแอจากอุปสงค์ในประเทศที่ยังไม่เข้มแข็ง
นอกจากนี้ได้ปรับประมาณดุลบัญชีเดินสะพัดปีนี้จะขาดดุลประมาณ -15.3พันล้านดอลลาร์ และปีหน้าดุลบัญชีเดินสะพัดใกล้จะสมดุลโดยเกิน 1พันล้านดอลลาร์ จำนวนนักท่องเที่ยวปีหน้าประมาณ 6ล้านคนจาก 2แสนคนปี2564