ดาวโจนส์ปิดร่วง 323 จุด จากแรงขายหุ้นเทคโนฯหลังบอนด์ยีลด์พุ่ง

04 ต.ค. 2564 | 23:52 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ต.ค. 2564 | 06:57 น.

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 34,002.92 จุด ลดลง 323.54 จุด นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,002.92 จุด ลดลง 323.54 จุด หรือ -0.94% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,300.46 จุด ลดลง 56.58 จุด หรือ -1.30% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,255.48 จุด ลดลง 311.21 จุด หรือ -2.14%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.470% เมื่อคืนนี้ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย โดยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะทำให้บริษัทต่างๆเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่สภาคองเกรสยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ ขณะที่เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) เตือนว่า ตลาดการเงินอาจได้รับผลกระทบรุนแรงหากสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ และอาจทำให้สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงสู่ระดับ D ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงหนักสุดถึง 2.36%

หุ้นเฟซบุ๊ก ลดลง 4.89% หลังมีรายงานว่า เฟซบุ๊ก รวมทั้งอินสตาแกรมและ WhatsApp ซึ่งเป็นบริการในเครือของเฟซบุ๊ก ต่างประสบปัญหาขัดข้องทางเทคนิคและทำให้ผู้ใช้บริการทั่วโลกไม่สามารถเข้าใช้งานได้เมื่อคืนนี้ ตั้งแต่เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย

หุ้นบริษัทผลิตวัคซีนร่วงลง หลังจากบริษัทเมอร์ค แอนด์ โคเปิดเผยผลการทดลองระบุว่า ยาโมลนูพิราเวียร์ (molnupiravir) ซึ่งเป็นยาเม็ดสำหรับรักษาโรคโควิด-19 นั้น มีประสิทธิภาพในการต้านไวรัสโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์เดลตา

ทั้งนี้ หุ้นไฟเซอร์ ลดลง 1.19% หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ลดลง 0.78% หุ้นโมเดอร์นา ลดลง 4.47% หุ้นโนวาแวกซ์ ลดลง 1.83%

ไมเคิล ยี ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีวภาพของบริษัทเจฟเฟอรีส์ กล่าวว่า การร่วงลงของหุ้นบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นาสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนจะกลัวโควิด-19 น้อยลง และจะลดความต้องการฉีดวัคซีน เนื่องจากมียาเม็ดที่รับประทานได้ง่ายเพื่อรักษาโรคโควิด-19

ข่าวความคืบหน้าในการทดลองยาโมลนูพิราเวียร์เป็นปัจจัยหนุนหุ้นเมอร์ค แอนด์ โค พุ่งขึ้น 2.09%

หุ้นเทสลา ขึ้น 0.81% หลังบริษัทเปิดเผยยอดการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 241,300 คันในไตรมาส 3/2564 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 220,900 คัน

ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 1.63% หลังจากราคาน้ำมัน WTI ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปี 

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐดีดตัวขึ้น 1.2% ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.0% หลังจากปรับตัวขึ้น 0.7% ในเดือนก.ค.

นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของ FactSet คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 475,000 ตำแหน่ง ซึ่งดีกว่าในเดือนส.ค.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่ง