ร้านค้า"เราชนะ-คนละครึ่ง"โวยถูกเรียกเงินคืนเหตุผิดเงื่อนไข"แลกเงินสด"

11 ต.ค. 2564 | 01:33 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ต.ค. 2564 | 08:42 น.

ร้านค้าโครงการรัฐ"เราชนะ-คนละครึ่ง" โวยถูก"สศค."เรียกเงินคืนอ้างเหตุไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ส่วนใหญ่เป็นร้านรับแลกเงินสด- ออนไลน์ สูงสุดเรียกคืน 17 ล้านบาท ด้านนายสามารถ อดีตผช.รมต.ยุติธรรม เตรียมนำผู้ประกอบการร้องทุกข์ต่อนายกฯที่ทำเนียบ 12 ต.ค. นี้

11ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์หน้าเฟสบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "วันอังคารที่ 12 ตุลาคม 2564 เวลา 11.00 น ที่ศูนย์ร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล ผมและผู้เดือดร้อนจะยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึงนายกรัฐมนตรี ในปัญหาโครงการเราชนะ โดยมี ตัวแทนนายกฯร่วมรับฟังปัญหานี้ด้วยติดตามความคืบหน้าได้ที่นี่" 

โดยนายสามารถ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนได้รับเรื่องร้องขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่เป็นผู้ประกอบการรายเล็ก ที่ร่วมโครงการเราชนะ แล้วพอเสร็จสิ้นโครงการ กลับถูกหน่วยงานสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลังฟ้อง ซึ่งจุดประสงค์โครงการนี้เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ออกนโยบายมาช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน โดยอัดฉีดเม็ดเงินลงในระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตโควิด โดยมีพ่อแม่พี่น้องประชาชนเข้าร่วมโครงการกว่า 33.2 ล้านคน มีเงินหมุนเวียนในระบบ 273,475 ล้านบาท  แต่ปรากฏว่าพอสิ้นสุดโครงการกลับมาไล่ฟ้องประชาชน ตนจึงคิดว่าเรื่องนี้ควรส่งปัญหาถึงท่านนายกรัฐมนตรีโดยด่วน ซึ่งล่าสุดปัญหาการถูกฟ้องร้องโครงการเราชนะ ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ด้วย 

"วันอังคารนี้ ( 12 ต.ค.64 )จะมีพ่อแม่พี่น้องประชาชนจากทั่วประเทศจะเดินทางมาเป็นตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ ที่คาดการณ์ว่ามีผู้ได้รับผลกระทบหลายคน  ซึ่งตนจึงมั่นใจว่าถ้าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับรู้ว่ามีพ่อแม่พี่น้องประชาชนโดนไล่ฟ้องจากผลกระทบที่นายกฯออกนโยบายช่วยประชาชน น่าจะมีนโยบายออกระเบียบมาช่วยพ่อแม่พี่น้องประชาชนได้ โดยวันดังกล่าวจะมี เพื่อนผมซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเข้าร่วมรับฟังด้วยเพื่อแก้ปัญหาให้พ่อแม่พี่น้องประชาชน" นายสามารถ กล่าว

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2564 สื่อออนไลน์ทั้งทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กร่วมกันติด #เรียกเงินคืนโครงการรัฐ โดยพบว่าพ่อค้าแม่ค้าหลายรายที่เข้าร่วมโครงการรัฐไม่ว่าจะเป็น โครงการเราชนะ โครงการ ม.33 รวมถึงโครงการคนละครึ่ง ได้รับหนังสือแจ้งจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลังว่า ต้องคืนเงินให้กับรัฐบาล เนื่องจากไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไข โดยผู้ที่ได้รับหนังสือดังกล่าวสามารถติดต่อกับ สศค.ภายใน 15 วัน เพื่อขออุทธรณ์ และชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป
 

โดยมีรายงานว่า กลุ่มผู้ที่ได้รับหมายเรียกเงินคืนจะเป็นกลุ่มร้านที่รับแลกเงินสด และร้านค้าออนไลน์ ยอดสูงสุดที่มีการเรียกเงินคืนสูงถึง 17 ล้านบาท ขณะที่ผู้ได้รับหมายเรียกมองว่าไม่ยุติธรรมควรเรียกคืนเฉพาะส่วนที่รัฐอุดหนุนมาเท่านั้น และหมายเรียกเงินคืนนั้น ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าทำผิดเงื่อนไขอย่างไร เพื่อจะได้อุทธรณ์ให้ถูกจุดเป็นต้น

ความคืบหน้าการดำเนินโครงการรัฐ ข้อมูล ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2564 

โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 24.76 ล้านราย จากผู้เข้าร่วมโครงการรวม 27.47 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 80,660.3 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายสะสม 41,016 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 39,644.3 ล้านบาท 

โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีประชาชนผู้ใช้สิทธิจำนวน 79,681 คน จากจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ 497,374 ราย โดยมียอดใช้จ่ายสะสมรวมทั้งหมด 2,496  ล้านบาท โดยมีมูลค่าการใช้จ่ายสะสมที่นำมาคำนวณสิทธิ e-Voucher 1,957 ล้านบาท และคิดเป็นมูลค่าสะสม e-Voucher ทั้งสิ้นกว่า 213 ล้านบาท และมูลค่าการใช้จ่ายส่วน e-Voucher 110 ล้านบาท