นายเติมพงษ์ เหมาะสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ เปิดเผยว่า บริษัทกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ สำหรับหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี 8 เดือน ไว้ที่ 4.00% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน หุ้นกู้ชุดนี้มีแผนเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป ผ่านธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2564
“ในช่วงเวลาที่นักลงทุนแสวงหาการลงทุนในตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ และมีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ ‘ลงทุนได้’ (Investment grade) หุ้นกู้ UNIQ จะเป็นการลงทุนที่ตอบโจทย์ดังกล่าว และเชื่อว่าหุ้นกู้ UNIQ จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี” นายเติมพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ หุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ BBB และอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทอยู่ที่ BBB+ แนวโน้ม Negative จัดอันดับโดยบริษัท ทริส เรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2564 และเมื่อพิจารณาถึงโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการที่บริษัทสามารถชนะการประมูลงานโครงการขนาดใหญ่จากภาครัฐและรัฐวิสาหกิจได้อย่างสม่ำเสมอ ยิ่งสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนมากยิ่งขึ้น
UNIQ เป็นผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่เน้นงานสาธารณูปโภคขนาดกลางและขนาดใหญ่ เช่น งานโยธาสถานีกลางบางซื่อของการรถไฟแห่งประเทศไทย และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญงานก่อสร้างสะพานโครงสร้างเหล็กและสะพานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก งานก่อสร้างอุโมงค์รถยนต์ลอดใต้ทางแยก งานก่อสร้างทางพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กและแอลฟัลท์ติกคอนกรีต งานระบบสาธารณูปโภคใต้ดินทั้งไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์
รวมถึงงานในโครงการรับเหมาก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่มูลค่าโครงการสูง หรือเป็นโครงการที่ต้องอาศัยความชำนาญหรือเทคโนโลยีเฉพาะด้าน ลูกค้าของบริษัทจะเป็นหน่วยงานภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เช่น กรมทางหลวง การไฟฟ้านครหลวง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) การรถไฟแห่งประเทศไทย
ล่าสุด กิจการร่วมค้า ยูเอ็น-ซีซี (บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ร่วมกับ บจ. ซีวิล คอนสตรัคชั่น เซอร์วิสเซส แอนด์ โปรดักส์) ชนะการประมูลก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 1 จากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย มูลค่า 7,350 ล้านบาท โดยเป็นสัดส่วนของ UNIQ 70% หรือมูลค่า 5,145 ล้านบาท และสัดส่วนของ “CCSP” 30% คิดเป็นมูลค่า 2,205 ล้านบาท โดยได้ลงนามสัญญาในวันที่ 11 ตุลาคม 2564 เรียบร้อยแล้ว
ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564 บริษัทมีงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการ (Backlog) มูลค่าประมาณ 88,655.5 ล้านบาท โดยเป็นส่วนที่ยังไม่รับรู้รายได้ประมาณ 16,604.1 ล้านบาท ซึ่งมีอายุสัญญาอีกประมาณ 3 ปี และมีงานที่ชนะการประมูลและลงนามสัญญาในไตรมาส 3 ปี 2564 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 มูลค่า 10,570 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีรายได้อย่างต่อเนื่อง