ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,157.58 จุด เพิ่มขึ้น 104.95 จุด หรือ +0.29% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,660.57 จุด เพิ่มขึ้น 29.92 จุด หรือ +0.65% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,811.58 จุด เพิ่มขึ้น 161.98 จุด หรือ +1.04%
คณะกรรมการเฟดประกาศแผนการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเฟดมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะทำให้เฟดตัดสินใจดำเนินการดังกล่าว
เฟดประกาศว่าจะปรับลดวงเงินในโครงการ QE เดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย. โดยเฟดจะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเดือนละ 10,000 ล้านดอลลาร์ และปรับลดวงเงินซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) เดือนละ 5,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งการลดวงเงิน QE ดังกล่าวจะทำให้เฟดยุติการทำ QE โดยสิ้นเชิงในกลางปี 2565
ดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยพุ่งขึ้น 1.8% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุดีดตัวขึ้น 1.1%
นอกจากผลการประชุมเฟดที่เป็นไปตามคาดแล้ว ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 571,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. จากระดับ 523,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 395,000 ตำแหน่ง
ไอเอชเอส มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.7 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. จากระดับ 54.9 ในเดือนก.ย.
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัว หรือเพิ่มขึ้น 0% หลังจากดีดตัวขึ้น 1.0% ในเดือนส.ค.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะพุ่งขึ้น 450,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 194,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนต.ค.จะลดลงสู่ระดับ 4.7% จากระดับ 4.8% ในเดือนก.ย.