ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทอ่อนค่าลงสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ และการร่วงลงอย่างหนักของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนจากกระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับความเป็นไปที่จะมีการเร่งปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ของมาตรการ QE และอาจจะตามมาด้วยการคุมเข้มนโยบายการเงินด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังจากที่ปธน. โจ ไบเดนเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล เป็นประธานเฟดต่อเนื่องเป็นสมัยที่สอง
สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1,338.26ล้านบาท ขณะที่ซื้อสุทธิพันธบัตรไทยเพียง 17 ล้านบาท
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 โดยธปท. อยู่ที่ -0.63 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ 2.28 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ คาดไว้ที่ 32.90-33.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตามจะอยู่ที่ ทิศทางเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ สถานการณ์โควิด-19 และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประกอบด้วย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่ อัตราเงินเฟ้อวัดจากดัชนีราคา PCE/Core PCE Price Index เดือนต.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/64 (ครั้งที่ 2) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 2-3 พ.ย.