นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ “TVI” ผู้นำด้านนวัตกรรมประกันภัยณInsurTech เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เสมือนเป็นตัวเร่งให้โลกเปลี่ยนเข้าสู่ความปกติใหม่ (New Normal) อย่างฉับพลัน
เทคโนโลยีกลายเป็นอีกปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตประจำวัน ส่งผลให้การคิดค้นพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ คือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของทุกภาคส่วนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ที่ผ่านมาประกันภัยไทยวิวัฒน์ได้ลงทุนด้านบุคลากร รวมถึงคนพัฒนาซอฟแวร์ และสร้างบริษัทลูกเพื่อความคล่องตัวในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์(AI) เน้นพัฒนาและสร้างขึ้นด้วยตัวเองสามารถปรับตัวได้เร็ว ที่สำคัญบริษัทตระหนักถึงความสำคัญ และมุ่งมั่นในการใช้เทคโยโลยีเพื่อพัฒนายกระดับการประกันภัย มาตลอดระยะเวลา 70 ปี
ภายใต้ปฏิธานเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมประกันภัยให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยผู้บริโภคมีหลักประกันที่มั่นคง สามารถเลือกใช้ชีวิตได้อย่างอิสระในแบบที่ต้องการ ขณะเดียวกันบริษัทฯยังได้เตรียมความพร้อมในทุกด้าน ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพระบบการจัดการ ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพด้านทรัพยากรบุคคลให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
นายจีรพันธ์กล่าวถึงแผนธุรกิจ 3ปี(2565-2567)ว่า บริษัทตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยเติบโต 10,000ล้านบาท ซึ่งต้องสามารถเติบโตได้ในอัตรา 10-15%ต่อปีจึงจะไปถึงเป้าหมายดังกล่าวได้ สิ้นปีนี้คาดว่าจะทำได้กว่า 6,000ล้านบาท ปีหน้าอีก 7,000ล้านบาทปีถัดไป 8,000ล้านบาทและแตะ 10,000ล้านบาท
หลักๆจะมาจากพอร์ตประกันภัยรถยนต์ การอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคเลือก ด้วยนวัตกรรมที่แตกต่างและตอบโจทย์รายบุคคล ซึ่งจะเห็นได้จากประกันการเดินทางในรอบปีก่อนจนถึงปัจจุบันแม้เบี้ยจะหายไปแต่ไทยวิวัฒน์ประกันภัยสามารถเติบโตได้ด้วยโปรดักส์และทางเลือกเพื่อลูกค้า ส่วนประกันสุขภาพในอีก 3ปีมีแนวโน้มที่จะเป็นตลาดใหญ่ขึ้นพอสมควร เพราะประกันภัยจะช่วยลดความเสี่ยงจากโรค
แต่ประเด็นคือ บริษัทต้องออกแบบและบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้า นอกจากนี้การแข่งขันก็มีแนวโน้มสูงขึ้นในแง่ของคุณภาพเพราะผู้บริโภคจะเน้นเรื่องคุณภาพมากขึ้นนอกจากเรื่องราคาและความมั่นคงของบริษัทมีความสำคัญมาก
นายเทพพันธ์ อัศวะธนกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVI กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับก้าวต่อไปสู่ทศวรรษที่ 8 ประกันภัยไทยวิวัฒน์มุ่งสร้างประสบการณ์ประกันภัยแห่งอนาคต ด้วยการนำ InsurTech มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ
ยกระดับบริการเติมเต็มวิถีชีวิตในแบบเฉพาะบุคคลได้อย่างลงตัวมากขึ้น เดินหน้าพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ และประเภทความคุ้มครอง ทั้งกลุ่ม Motor และ Non-Motor ให้มีความหลากหลาย เข้าถึงง่าย ใช้งานสะดวก คุ้มค่า คุ้มราคา ครอบคลุมลักษณะการใช้งาน และวิถีชีวิตที่มีความแตกต่างกันของแต่ละบุคคลได้มากขึ้น
พร้อมเดินหน้าขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งรายเก่าและรายใหม่ เพื่อมอบสิทธิประโยชน์เติมเต็มทุกช่วงจังหวะการใช้ชีวิตของผู้บริโภค ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวมเติบโตทะลุ 1 หมื่นล้านบาท ภายใน 3 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า การประกันภัยรถยนต์ โดยเฉพาะ “ผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์แบบเปิดปิด” ที่ TVI เป็นบริษัทประกันวินาศภัยเพียงรายเดียวที่นำเสนอผลิตภัณฑ์นี้ให้กับคนไทย ภายใต้มาตรฐานความคุ้มครองและการบริการเสมือนการประกันภัยรถยนต์ปกติ แต่โดดเด่นเรื่องความยุติธรรมของเบี้ยประกันที่ต้องจ่าย ซึ่งช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้สูงสุดถึง 70% ยังมีโอกาสเติบโตสูงกว่า 100 เท่า
สะท้อนจากผลสำรวจที่พบว่า ปัจจุบันคนไทยมีอัตราการเข้าถึงประกันวินาศภัยอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วที่มีอัตราเบี้ยต่อ GDP เฉลี่ยอยู่ที่ 10-20% ขณะที่ประเทศไทยต่ำกว่า 2% เท่านั้น นอกจากนั้นยังพบว่ารถยนต์ที่จดทะเบียนส่วนบุคคลในประเทศไทยที่ยังไม่มีประกันรถยนต์ภาคสมัครใจอยู่กว่า 7 ล้านคัน ซึ่งสาเหตุสำคัญของการเข้าถึงการประกันภัยที่ยังต่ำโดยเฉพาะการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจน่าจะมาจากผู้ทำประกันรถยนต์ส่วนใหญ่กว่า 80% เห็นว่าต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันสูงกว่าความจำเป็น
“ปีหน้าเราจะเติบโตก้าวกระโดด 20เท่าจำนวนกว่า 2แสนกรมธรรม์ซึ่งอนาคต3-5ปีมีโอกาสเติบโตจากคนที่ไม่เคยมีประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจเลือกมาใช้ เปิดปิดอัตโนมัติและความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์”
ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ประโยชน์คืนสู่สังคมอย่างต่อเนื่อง โดยในโอกาสครบรอบ 70 ปี บริษัทฯได้จัดทำแคมเปญพิเศษ “Caring is Giving” มอบเงินส่วนหนึ่งของเบี้ยรับที่มาจากการขายทาง Online รวม 1 ล้านบาท ให้กับมูลนิธิยุวพัฒน์, มูลนิธิรามาธิบดี และสภากาชาดไทย
พร้อมจัดโครงการ Thaivivat Innovation Awards 2021 ด้วยการจับมือ 3 พันธมิตรหลัก ได้แก่ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA), ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิคส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) และ บริษัท Amazon Web Service Thailand จำกัด ร่วมทำ Workshop เฟ้นหา InsurTecher เจนเนอเรชั่นใหม่สู่วงการประกันภัย โดยได้มีนักศึกษาและนักพัฒนาใหม่ๆ เข้าร่วมแข่งขันถึง 41 ทีม โดยทางบริษัทจะมอบเงินทุนการศึกษารวม 1 แสนบาทให้กับ 3 ทีมสุดท้าย ที่ได้รับการคัดเลือก
ทั้งนี้ ในโอกาสครบรอบ 70 ปี และร่วมส่งความสุขช่วงท้ายปี 2564 บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย แคมเปญสุดยิ่งใหญ่ YEAR END BIG DEAL 2021 แคมเปญส่งท้ายปี ที่มอบส่วนลดและโปรโมชันสุดพิเศษ ทั้งประกันรถเปิดปิดและประกันภัยสุขภาพ ทั้ง Active Healthและใจป้ำมีคืน
ประกันรถเปิดปิด มอบความคุ้มครองเพิ่ม 30 วัน และรับระยะเวลาคุ้มครองเพิ่ม 30 ชั่วโมง เมื่อซื้อหรือต่ออายุ ประกันรถเปิดปิด แบบ Package, แบบ Top-up, ประกันรถเปิดปิด Home Plus แผน 365 วัน ทุกประเภทความคุ้มครองผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.thaivivat.co.th หรือ Call center 02-200-7000 หรือแอปพลิเคชัน Thaivivat ตั้งแต่ วันที่ 1 ธ.ค. 64 – 31 ธ.ค. 64
รวมถึงยังมอบส่วนลดค่าเบี้ยงวดแรกสำหรับประกันสุขภาพ Thaivivat Active Health ทุกแผน สูงสุดถึง 1,400 บาท และส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยงวดแรกสำหรับประกันสุขภาพใจป้ำมีคืน 350 บาท สำหรับแผนความคุ้มครองผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก(IPD+OPD) เมื่อสมัครผ่านเว็บไซต์หรือ Call center 02-200-7111 ตั้งแต่ วันที่ 1 ธ.ค. 64 – 31 ธ.ค. 64
นอกจากกิจกรรมส่งเสริมการขายแล้ว ยังมอบสิทธิพิเศษ จากร้านค้า, ร้านอาหาร และแบรนด์พันธมิตรชั้นนำมากมาย อาทิ สิทธิพิเศษตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 30 รายการ ,พ่นฆ่าเชื้อป้องกันไวรัสโควิด 19 ,เติมลมยางไนโตเจน , ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ จากศูนย์บริการรถยนต์ AUTOBACS รวมถึงโปรแกรมตรวจสุขภาพ ไทยวิวัฒน์ 70 ปี ร่วมกับโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่นในราคาพิเศษเพียง 2,490 บาท อีกทั้งยังมีบริการจองที่จอดรถล่วงหน้า ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 6 สาขาทั่วกรุงเทพมหานคร และบริการล้างรถนอกสถานที่ ทั้งหมด 54 เขตทั่วกรุงเทพมหานคร ผ่านแอปพลิเคชัน Thaivivat