ธ.ก.ส.ให้กู้"พยุงราคาข้าว"รายละไม่เกิน 3 แสน ชำระภายใน 5 เดือนไม่มีดอกเบี้ย

13 ธ.ค. 2564 | 01:55 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ธ.ค. 2564 | 08:56 น.

ธ.ก.ส พยุงราคาข้าว จัดงบ 35,000 ล้านบาท ผ่านโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2564/65 และสินเชื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้เกษตรกรกรกู้ได้สูงสุดรายละ 3 แสนบาท ชำระคืนภายใน 5 เดือน ไม่มีดอกเบี้ย เช็คเงื่อนไข

นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)  เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการยกระดับราคาข้าวเปลือก ธ.ก.ส. ได้ดำเนินมาตรการคู่ขนานผ่านโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2564/65 เพื่อให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนระหว่างชะลอการขายข้าว ไม่ต้องเร่งขายข้าวเปลือกในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากและราคาตกต่ำ วงเงินสินเชื่อรวมกว่า 20,000 ล้านบาท โดยไม่คิดดอกเบี้ยกับเกษตรกร เป็นระยะเวลา 5 เดือน 

 

"ธ.ก.ส.ตั้งเป้าดูดซับปริมาณข้าวเปลือก 2 ล้านตัน ประกอบด้วย ชนิดข้าวเปลือกหอมมะลิในเขต 23 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด และภาคเหนือ 3 จังหวัด (เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา) ข้าวเปลือกหอมมะลินอกเขต 23 จังหวัด ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกปทุมธานี 1 และข้าวเปลือกเหนียว"

 

คุณสมบัติข้าวเปลือกที่เข้าร่วมโครงการ

 

คุณสมบัติข้าวเปลือกที่เข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นข้าวเปลือกที่มีความชื้นไม่เกินร้อยละ 15 สิ่งเจือปนไม่เกินร้อยละ 2 และสีได้ต้นข้าวไม่ต่ำกว่า 20 กรัม โดยในส่วนข้าวหอมมะลิจะมีเมล็ดข้าวแดงได้ไม่เกินร้อยละ 0.5 (ไม่เกิน 22 เมล็ดใน 100 กรัม) กำหนดวงเงินสินเชื่อต่อตัน ดังนี้

 

เงื่อนไขวงเงินสินเชื่อต่อตัน

 

  • ข้าวเปลือกหอมมะลิในเขต 23 จังหวัด 11,000 บาท/ตัน
  • ข้าวหอมมะลินอกเขต 23 จังหวัด 9,500 บาท/ตัน  
  • ข้าวเจ้า 5,400 บาท/ตัน  ข้าวหอมปทุมธานี 1  7,300 บาท/ตัน
  • ข้าวเหนียว 8,600 บาท/ตัน 

 

วงเงินสินเชื่อแยกตามประเภทผู้กู้

 

  • เกษตรกร กู้ได้รายละไม่เกิน 300,000 บาท 
  • สหกรณ์การเกษตรและชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งละไม่เกิน 300 ล้านบาท
  • กลุ่มเกษตรกรแห่งละไม่เกิน 20 ล้านบาท 
  • วิสาหกิจชุมชนแห่งละไม่เกิน 5 ล้านบาท

 

ทั้งนี้กรณีชำระคืนภายใน 5 เดือน ไม่มีดอกเบี้ย (รัฐบาลรับภาระจ่ายแทน) 

ธ.ก.ส.ให้กู้\"พยุงราคาข้าว\"รายละไม่เกิน 3 แสน ชำระภายใน 5 เดือนไม่มีดอกเบี้ย

 

นอกจากนี้รัฐบาลยังช่วยเหลือค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือก 1,500 บาทต่อตัน กรณีเกษตรกรเก็บข้าวเอง ได้รับ 1,500 บาทต่อตัน กรณีเกษตรกรฝากข้าวกับสถาบันเกษตรกร เกษตรกรจะได้รับ 500 บาทต่อตัน และสถาบันฯจะได้รับ 1,000 บาทต่อตัน ระยะเวลาจัดทำสัญญาตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 กรณีภาคใต้ ตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึง 31 กรกฎาคม 2565 

 

ในส่วนสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2564/65 วงเงินสินเชื่อรวม 15,000 ล้านบาท สำหรับสหกรณ์การเกษตร ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และศูนย์ข้าวชุมชนที่ประกอบธุรกิจรวบรวมข้าวจากเกษตรกรสมาชิก เกษตรกรทั่วไป เพื่อนำไปพัฒนาคุณภาพ เช่น การลดความชื้น การแปรรูปผลผลิต เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม วงเงินกู้สำหรับสหกรณ์การเกษตร  แห่งละไม่เกิน 300 ล้านบาท กลุ่มเกษตรกรแห่งละไม่เกิน 20 ล้านบาท และวิสาหกิจชุมชนแห่งละไม่เกิน 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ซึ่งคิดจากสถาบันฯ เพียงร้อยละ 1 ต่อปี ส่วนที่เหลือรัฐบาลรับภาระแทน ระยะเวลาจ่ายสินเชื่อ ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 กันยายน 2565.

ธ.ก.ส.ให้กู้\"พยุงราคาข้าว\"รายละไม่เกิน 3 แสน ชำระภายใน 5 เดือนไม่มีดอกเบี้ย