นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันที่ 14 ธันวาคม 2564 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเป้าหมายของนโยบายการเงิน ประจำปี 2565 ซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยได้กำหนดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2565 ในกรอบ 1% - 3% ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างช้า ๆ และเป็นการกำหนดกรอบเป้าหมายแบบช่วงความกว้าง 2% ซึ่งมีความยืดหยุ่นเพียงพอรองรับความผันผวนในอนาคต และเอื้อต่อการดำเนินนโยบายการเงินเพื่อรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่ไปกับการดูแลเศรษฐกิจให้เติบโต
โดย กนง. ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะยังคงอยู่ในระดับต่ำใกล้เคียงกับขอบล่างของเป้าหมายนโยบายการเงิน โดยมีปัจจัยสำคัญ คือ
(1) กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลงเป็นวงกว้างตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง อาจทำให้เศรษฐกิจในระยะข้างหน้ามีแนวโน้มฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป
(2) รายได้และกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ในระดับต่ำจากตลาดแรงงานที่มีความเปราะบางตามการเพิ่มขึ้นของผู้ว่างงานทั้งระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
(3) ราคาสินค้าที่ปรับลดลงจากพฤติกรรมของผู้ผลิตและผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทั้งจากการแข่งขันด้านราคาผ่านธุรกิจ e-commerce และต้นทุนการผลิตที่ต่ำลงจากการนำเครื่องจักรมาใช้ทดแทนแรงงานในกระบวนการผลิต (Automation) มากขึ้น
อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อไทยในอนาคตอาจจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้นจากปัจจัยต่าง ๆ อาทิ ความผันผวนของราคาพลังงานและราคาอาหารสด การเกิดภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Disruption) และการทวนกระแสโลกาภิวัตน์(Deglobalization) ที่อาจทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นได้ ดังนั้น กนง. จะติดตามแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อดังกล่าว รวมถึงประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่มีต่อเงินเฟ้อไทยในระยะต่อไป
ทั้งนี้ หากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่านมาหรือประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนข้างหน้าเคลื่อนไหวออกนอกกรอบเป้าหมาย กนง. จะมีจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อชี้แจงถึงสาเหตุ และ แนวทางการดำเนินนโยบายการเงินเพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับเข้าสู่เป้าหมายในระยะเวลาที่เหมาะสม
นอกจากนี้ กนง. จะมีจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทุก 6 เดือนหากอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยตามแนวทางข้างต้นยังคงอยู่นอกกรอบเป้าหมาย และจะรายงานความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาเป็นระยะตามสมควร อย่างไรก็ตามหากมีความจำเป็นในการแก้ไขเป้าหมายกรอบเงินเฟ้อทั่วไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ กนง. อาจตกลงร่วมกันเพื่อแก้ไขเป้าหมายของนโยบายการเงินได้ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา