"ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง" นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่า พระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2564 ที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 เป็นไปตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 มาตรา 37 ที่กำหนดให้การกำหนดอัตราภาษีที่จัดเก็บสำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ต้องตราเป็นพระพระราชกฤษฏีกา
ทั้งนี้การกำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะเป็นอัตราเดียวหรือหลายอัตราจำแนกตามมูลค่าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างก็ได แต่ต้องไม่เกินอัตราภาษีที่กำหนดไว้ในพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562
ดังนั้นอัตราที่ประกาศในครั้งนี้ จึงเป็นอัตราเดียวกับที่ประกาศใช้ตามบทเฉพาะกาล ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
สำหรับอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2555 มีอัตราดังนี้
1. การประกอบเกษตรกรรม อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน ร้อยละ 0.01 – 0.1
2. ที่อยู่อาศัย อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน ร้อยละ 0.02 – 0.1
2.1 ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน ร้อยละ 0.03 – 0.1
2.2 สิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน ร้อยละ 0.02 – 0.1
2.3 ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัยกรณีอื่นนอกเหนือจาก 2.1 และ 2.2 อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน ร้อยละ 0.02 – 0.1
3. การใช้ประโยชน์อื่นนอกเหนือจากข้อ 1 และข้อ 2 อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน ร้อยละ 0.3-0.7
4. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน ร้อยละ 0.3 – 0.7
“อัตราที่ประกาศในพระราชกฤษฎีกานี้ จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 และไม่ได้ขยายเวลาการปรับลดอัตราการจ่ายภาษีลง 90% แต่อย่างใด เพราะยังไม่ได้มีมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ออกมาในเรื่องนี้ และสศค.เองก็ไม่ได้เป็นผู้นำเสนอด้วย”นายพรชัยกล่าว