"กลุ่มธรรมนัส"ออก หุ้นไทยไร้สะดุ้ง โบรกมองเหตุไม่ใช่"คีย์แมนศก."

กระแสข่าวร้อนทางการเมือง กรณีคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)และ ส.ส. มีมติ 78 เสียงให้ขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรค ฯพร้อม ส.ส. 20 คน ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ในข้อหาสร้างความขัดแย้งภายในพรรค โดยจะต้องหาพรรคใหม่ ภายใน 30 วันนั้น

นายภาสกร ลินมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บมจ. หลักทรัพย์กสิกรไทย กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" มุมมองเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการบรรยากาศการลงทุน  และหากต้องยุบสภาหรือเลือกตั้ง คาดว่าจะเป็นหลังการประชุมเอเปค ปี 2565 (APEC 2022 ) ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นช่วงระหว่างวันที่ 1- 3 ธันวาคม 2565 เพราะเป็นงานใหญ่ของรัฐบาลและประเทศ จึงมองว่าทิศทางการเมืองน่าจะจะประคองเพื่อให้ผ่านการประชุมเอเปคก่อน

"ข่าวที่เกิดขึ้นวานนี้ 19 ม.ค.65 ต้องดูกันอีกที ถ้าขยายผลเพิ่ม ก็อาจเกิดขึ้นก่อน แต่ตนยังเชื่่อว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องประชุมเอเปคมาก่อน อีกทั้งเสถียรภาพรัฐบาลเวลานี้ พปชร.ยังปึ๊ก ความระหองระแหงทางการเมือง เป็นเรื่องที่มีมาเป็นระยะ ๆๆ อยู่แล้ว เชื่อว่า รัฐบาลจะประคองให้อยู่ครบเทอม " 
 

ด้านนายนายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่าในด้านผลต่อตลาดหุ้นไทย เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบ ส่วนหนึ่งเพราะ ส.ส.ที่ออกจากพรรคฯ ไม่ได้เป็น "คีย์แมน" หรือมีตำแหน่งบทบาททางเศรษฐกิจ ต่างจากกรณีของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ออกจาก ส.ส.พ้นจากการเป็นรองนายกรัฐมนตรี  ตามมาด้วยชุดของ "4 กุมาร"ที่ลาออกตามหลัง ทำให้ตลาดหุ้นช่วงนั้นอ่อนไหวหุ้นร่วงหนัก

อย่างไรก็ตาม ผลต่อเสถียรรัฐบาล จากกรณีที่ มติ พปชร.ให้กลุ่มนายธรรมนัสพ้นจากกพรรค  คาดว่าจะไม่ส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลปัจจุบัน ประกอบการวาระสำคัญไม่มี ส่วนเรื่องที่ต้องใช้เสียงพรรคร่วม กรณีอาศัยเสียง ส.ว. ก็เป็นฐานเสียงรัฐบาลอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าจะส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลชุดหน้า หรือไทม์ไลน์ 12 เดือนนับจากนี้ จากจำนวนเสียง ส.ส.ที่หายไป ทำให้ฐานเสียงรัฐบาลอ่อนแอในการเลือกตั้งคราวหน้า 

ตลาดหุ้นไทย ปิดพักเที่ยงวันนี้ ( 20 ม.ค.) ดัชนีบวก 3.36 จุด หรือ+0.20% อยู่ที่ 1,661.60 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,846.13 ล้านบาท ดัชนีปรับสูงสุด 1,666.60 จุด และต่ำสุด1,660.26 จุด