สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 8.80 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,810.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 2565
สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นที่เหนือระดับ 1,810 ดอลลาร์ หลังจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.40% แตะที่ 95.99 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.752% เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ส่วนการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐทรุดตัวลงในเดือนม.ค. และเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2563 เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
ทั้งนี้ ADP เปิดเผยว่า ภาคเอกชนมีการจ้างงานลดลง 301,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ข้อมูลของ ADP ยังระบุอีกว่า ภาคบริการมีการจ้างงานลดลง 274,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงานลดลง 27,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเพียง 178,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%