กรมบัญชีกลางสนองนโยบาย " ลดผลกระทบด้านการเงินการคลังช่วงโควิด-19" วางเป้าปี 65 งัดมาตรการเข้มเร่งรัดทุกหน่วยงานของรัฐใช้เงินงบประมาณโปร่งใส คุ้มค่า มีประสิทธิภาพ เชื่อมั่นช่วยลด-ขจัดปัญหาด้านการเงินการคลังของประเทศในภาวการณ์แพร่ระบาดโควิด-19
นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลด้านลดปัญหาและขจัดปัญหาด้านการเงินการคลังของประเทศในสถานการณ์ที่ประเทศกำลังเผชิญปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019อย่างต่อเนื่อง
ในปี 2565 นี้กรมบัญชีกลางจะเพิ่มมาตรการเข้มงวดในการกำกับและดูแลการบริหารใช้จ่ายเงินของแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยจะเร่งรัดให้ทุกหน่วยงานของรัฐใช้เงินงบประมาณอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ก็จะส่งเสริมให้การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานนั้นประสบความสำเร็จตามที่ตั้งไว้ และเกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของภาครัฐ รวมทั้งมีเร่งพัฒนา ประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการด้านการเงินการคลังภาครัฐเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติงานด้านการเงิน การคลังในภาพรวมของประเทศ ให้มีความถูกต้อง โปร่งใส และมีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน
พิธีมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ครั้งที่ 7 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ที่จัดขึ้นโดยกรมบัญชีกลางที่ผ่านมาพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้กำชับและให้นโยบายกรมบัญชีกลางกำกับ ดูแลการใช้จ่ายเงินของหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศให้เกิดความโปร่งใส คุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติงานด้านการเงินการคลังในภาพรวมของหน่วยงานให้ดียิ่งขึ้น เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงต่อไปและสนับสนุนให้กรมบัญชีกลางจัดงานรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลังอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นกำลังใจให้หน่วยงานภาครัฐเกิดความภาคภูมิใจในเกียรติยศและความไว้วางใจจากประชาชน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวย้ำด้วยว่า การได้รับรางวัลถือเป็นเรื่องที่ยากแต่การรักษารางวัลไว้ยากกว่า ขอให้ช่วยกันทำงานเดินหน้าต่อไปอย่างรอบคอบ ลดผลกระทบด้านการเงินการคลัง และปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารจัดการการเงินการคลังให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ การขับเคลื่อนนโยบายทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้มีเสถียรภาพ สิ่งสำคัญจะต้องมีการบริหารจัดการภาครัฐที่ดี มีการตรวจสอบ ไม่ทุจริต มีความโปร่งใส ซึ่งจะช่วยลดปัญหาและขจัดปัญหาด้านการเงินการคลังของประเทศได้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการภาครัฐ โดยกำหนดตามยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ และสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศในทุกมิติ
สำหรับรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลังฯ พิจารณาประเมินตามขั้นตอนการบริหารด้านการเงินการคลัง 5 มิติ ประกอบด้วย มิติด้านการจัดซื้อจัดจ้าง มิติด้านการเบิกจ่าย มิติด้านการบัญชีภาครัฐ มิติด้านการตรวจสอบภายในภาครัฐ และมิติด้านปลอดความรับผิดทางละเมิด ซึ่งแต่ละมิติได้มีการปรับปรุงเกณฑ์ให้เหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์
โดยในปีนี้จัดพิธีมอบรางวัลฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 54 รางวัล แบ่งออก 9 ประเภท ได้แก่ 1. รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการจัดซื้อจัดจ้าง 2. รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการเบิกจ่าย 3. รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการบัญชีภาครัฐ 4. รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการตรวจสอบภายในภาครัฐ 5. รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านปลอดความรับผิดทางละเมิด 6. รางวัลบุคคล/ทีมงานที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง 7. รางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศรายได้ 8.รางวัลประกาศเกียรติคุณหน่วยงานที่มีการพัฒนาการปฏิบัติงานด้านการเงินการคลัง และ 9. รางวัลประกาศเกียรติคุณส่งเสริมความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง
ทั้งนี้ มี 32 หน่วยงาน ได้รับรางวัล 1. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 2. สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ 3. กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 4. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด 5. กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน 6. กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 7. สำนักงานกิจการยุติธรรม 8. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 9. สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 10. สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม 11. สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม 12. สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 13. กองบัญชาการกองทัพไทย 14. สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 15. กรมปศุสัตว์ 16. กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ 17. กรมทรัพย์สินทางปัญญา 18. สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ 19. มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ 20. สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย 21. กรมธุรกิจพลังงาน 22. มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร 23. มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม 24. มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา 25. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา 26. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 27. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช 28. จังหวัดระยอง 29. จังหวัดนนทบุรี 30. จังหวัดชัยภูมิ 31. จังหวัดยโสธร และ 32. จังหวัดชุมพร