กระบวนการแลกหุ้นจากธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เป็น "เอสซีบี เอกซ์" หรือ SCBX โดยการที่ SCBX ประกาศทำคำเสนอซื้อ (Tender Offer) จากผู้ถือหุ้นของ SCB เพื่อแลกกับหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ของ "SCBX" ก่อนนำ SCBX เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเพิกถอนหุ้นของ SCB ออกจากตลาดในวันเดียวกัน
ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจของไทยพาณิชย์ ให้เข้าสู่กลุ่มธุรกิจการเงิน SCBX ที่จะสร้างความคล่องตัวและศักยภาพการเติบโตของกลุ่ม SCBX ที่ตั้งใจจะขยายสินเชื่อส่วนบุคคลในรูปแบบต่างๆ ไม่เพียงเฉพาะสินเชื่อบ้านกับสินเชื่อรถยนต์ แต่ยังรวมไปถึงสินเชื่อจำนำทะเบียน สินเชื่อดิจิทัล และสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อลูกค้าในกลุ่มที่แตกต่างจากลูกค้าเดิมของธนาคาร รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัลเช่นการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ธุรกิจแพลตฟอร์ม ฯลฯ
โดยรูปแบการให้บริการในรูปแบบต่างๆ ทั้งหมดอยู่ภายใต้วิสัยทัศน์องค์กรในการมุ่งหน้าที่จะเป็น “The Most Admired Financial Technology Group in ASEAN”
ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้สรุป10 เรื่องสำคัญที่ผู้ถือหุ้น SCB ควรจะต้องทราบก่อนการแลกหุ้น SCB เป็น SCBX ดังนี้
1.ช่วงระยะเวลาตอบรับคำเสนอซื้อ คือ วันที่ 2 มี.ค. 65 - 18 เม.ย. 65
โดยจะมีเอกสารแบบฟอร์มการตอบรับคำเสนอซื้อรวมถึงข้อมูลที่สำคัญเพื่อประกอบการตัดสินใจส่งไปถึงผู้ถือหุ้นแต่ละรายตามรายชื่อที่ปิดสมุด (เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 65) ทั้งนี้ผู้ถือหุ้นสามารถดาวน์โหลดเอกสารชุดดังกล่าวได้จาก www.set.or.th, https://www.scb.co.th/th/scbx.htm หรือ สอบถามจากบริษัทหลักทรัพย์ที่ผู้ถือหุ้นใช้บริการอยู่ได้เช่นเดียวกัน
(หากผู้ถือหุ้นประเภทมีใบหุ้นต้องการตอบรับคำเสนอซื้อ ขอความร่วมมือให้ดำเนินการ และส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง ภายในวันที่ 2 มี.ค. 65 - 5 เม.ย. 65 เนื่องจากตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์จะต้องนำใบหุ้นนั้นไปตรวจสอบและฝากไว้กับบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) ซึ่งเป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์และในกรณีสาขาต่างจังหวัดจำเป็นต้องนำส่งเอกสารและใบหุ้นดังกล่าวมายังกรุงเทพฯ)
2.เหตุผลที่ควรตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ในครั้งนี้
คือหุ้นของ SCBX มีสภาพคล่อง ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ ในขณะที่หุ้นของธนาคารฯ จะถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้ถือหุ้นยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการดำเนินงานของธุรกิจที่โอนย้ายไปยัง SCBX และธุรกิจใหม่ในอนาคต ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตและมีศักยภาพสูง
นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นบุคคลธรรมดาจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีจากกำไรที่ได้จากการซื้อขายหุ้น (Capital Gain Tax) สำหรับหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างไรก็ดี สำหรับนิติบุคคลที่ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ จะไม่มีค่าใช้จ่ายด้านภาษีสำหรับการขายหุ้นดังกล่าวเนื่องจากราคาแลกหุ้นเป็นราคาเดียวกับมูลค่าต้นทุนหุ้นธนาคารฯเดิมของผู้ถือหุ้นแต่ละราย
3.หุ้นสามัญของ "SCB"จะยังอยู่ในกลุ่ม Banking Sector
เนื่องจากเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์จะอิงจากรายได้หลักของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งในกรณีของ SCBX นั้นในระยะเริ่มต้น รายได้หลักก็ยังคงมาจากธนาคาร แต่หากในอนาคตมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็จะมีการแจ้ง
ให้ทราบทั่วกันอีกครั้ง
4.1 หุ้นสามัญ หรือ 1 หุ้นบุริมสิทธิ์ ของ SCB สามารถแลกได้ 1 หุ้นสามัญของ SCBX
ดังนั้นถ้าผู้ถือหุ้นของ SCB มีหุ้นอยู่จำนวนเท่าใด ก็จะสามารถแลกหุ้นของ
SCBX ได้เท่านั้น โดยทาง SCBX จะไม่มีการชำระค่าหุ้นให้ในรูปแบบอื่น
5.ผู้ถือหุ้นที่ต้องการตอบรับคำเสนอซื้อ ให้เตรียมเอกสาร และติดต่อช่องทางการตอบรับคำเสนอซื้อ ดังนี้
กรณีผู้ถือหุ้นประเภทฝากหุ้นไว้กับบริษัทหลักทรัพย์ (หรือหุ้นอยู่ในบัญชีซื้อขายหุ้นหรือไม่มีใบหุ้น) (Scripless) ให้ติดต่อบริษัทหลักทรัพย์ที่ผู้ถือหุ้นใช้บริการ โดยบริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าวจะรวบรวมเอกสารเพื่อส่งให้กับตัวแทนในการรับซื้อ หลักทรัพย์ 4 ราย คือ
กรณีผู้ถือหุ้นประเภทมีใบหุ้น (Scrip) ให้ติดต่อ สาขาธนาคารไทยพาณิชย์
(เฉพาะผู้ถือหุ้นประเภทบุคคลเท่านั้น) หรือ Investment Center ที่สะดวก
(เฉพาะผู้ถือหุ้นที่เป็นลูกค้า Wealth ของธนาคาร) หรือตัวแทนในการรับซื้อ
หลักทรัพย์ (ยกเว้น บล. เอเชีย พลัส) (สำหรับผู้ถือหุ้นประเภทมีใบหุ้นทุกราย)
ทั้งนี้เมื่อผู้ถือหุ้นตอบรับคำเสนอซื้อ พร้อมกับนำส่งเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว หุ้นของท่านจะถูกเก็บไว้ในบัญชีหลักทรัพย์ของตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ และผู้ถือหุ้นจะไม่สามารถซื้อขายหุ้นได้ จนกว่ากระบวนการทำคำเสนอซื้อจะแล้วเสร็จ
6.ผู้ถือหุ้นสามารถเลือกวิธีรับหุ้นได้ 2 แบบ ดังนี้
ในกรณีที่ผู้แสดงเจตนาขาย ประสงค์จะให้ฝากเข้าบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์หรือบัญชี 600 (Scripless System) ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะบันทึกยอดบัญชีจำนวนหุ้นสามัญที่บริษัทหลักทรัพย์ที่ผู้แสดงเจตนานั้นฝากหุ้นสามัญอยู่ และออกหลักฐานการฝากให้แก่ผู้แสดงเจตนาขายภายใน 7 วันทำการ นับจากวันที่สิ้นสุดระยะเวลารับซื้อ คือ วันที่ 27 เม.ย. 2565 (จะมีการประกาศวันที่แน่นอนให้ทราบอีกครั้ง)
ในกรณีที่ผู้แสดงเจตนาขาย ประสงค์จะขอรับใบหุ้นโดยให้ออกใบหุ้นในนามของผู้แสดงเจตนาขาย (Scrip System) ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะส่งมอบใบหุ้นตามจำนวนที่ได้รับการจัดสรรให้แก่ผู้แสดงเจตนาขาย ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตามชื่อที่อยู่ที่ระบุไว้ในใบจองซื้อหุ้นภายใน 15 วันทำการ นับจากวันที่สิ้นสุดระยะเวลารับซื้อคือ วันที่ 10 พ.ค. 2565 (จะมีการประกาศวันที่แน่นอนให้ทราบอีกครั้ง) ผู้แสดงเจตนาขายจะไม่สามารถขายหุ้นสามัญที่ได้รับการจัดสรรในตลาดหลักทรัพย์ฯได้จนกว่าจะได้รับใบหุ้น ซึ่งอาจจะได้รับภายหลังจากที่หุ้นสามัญของบริษัทฯได้เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วก็ได้
7.การตอบรับการเสนอซื้อหุ้นไม่มีค่าใช้จ่ายหรือภาษีใดๆ
ยกเว้นกรณีให้ผู้อื่นมายื่นแทน (ผู้เสนอขายไม่สามารถมายื่นแบบตอบรับด้วยตนเอง) เนื่องจากหนังสือมอบอำนาจจะต้องติดอากรแสตมป์ 30 บาท โดยให้แนบสำเนาเอกสารยืนยันตัวตนของผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจตามที่ระบุ พร้อมลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้อง
8.ผู้ถือหุ้นที่ประสงค์จะแลกใบหุ้น SCB เป็นใบหุ้น SCBX ให้ระบุในเอกสารตอบรับคำเสนอแลกหุ้น
ทั้งนี้เอกสารสำหรับการตอบรับคำเสนอจะจัดส่งให้ตามที่อยู่ที่ท่านให้ไว้ ในช่วงระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อ สำหรับผู้ที่ทำใบหุ้นหายไปแล้ว สามารถดำเนินการได้ 2 กรณี ดังนี้
หากผู้ถือหุ้น มีมาร์เก็ตติ้งดูแลบัญชีลูกค้า (Broker) ให้ติดต่อ Broker
เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อ TSD และนำหุ้นมาตอบรับคำเสนอซื้อ
ในกรณีที่ไม่มี Broker ดูแล ให้ผู้ถือหุ้นติดต่อบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์(ประเทศไทย) จำกัด (TSD) เพื่อดำเนินการนำหุ้นฝากเข้าบัญชี 600 หรือ ขอออกใบหุ้นฉบับใหม่ได้
9.หุ้น SCB จะถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์ในวันเดียวกันกับที่หุ้น SCBX จะเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
เบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะเป็นในช่วงปลายเดือนเมษายน ทั้งนี้ SCBX จะใช้ ticker ของธนาคาร คือ SCB เช่นเดิม ดังนั้นผู้ถือหุ้นจะเห็นหุ้น SCB ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์เมื่อมีการเครดิตหุ้นให้
10.ตัวแทนการในการรับชื้อหลักทรัพย์(Tender Agents) มีทั้งหมด 4 รายได้แก่
สำหรับผู้ถือหุ้นประเภทมีใบหุ้น (scrip) สามารถมาติดต่อยื่นเอกสารได้ที่
อ้างอิงที่มา : ธนาคารไทยพาณิชย์ ( SCB )