แนวโน้มราคาทองคำ วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ YLG เผย ราคาทองคำโลก บวก 10.58% ราคาทองไทยปรับตัวขึ้น 2,350 บาทต่อบาททองคำหรือ เพิ่มขึ้น 8.22% มองระยะข้างหน้า จับตา 6 ปัจจัย ที่จะชี้แนวโน้มราคาทองคำ น้ำมัน ดอกเบี้ย หวั่นราคาพลังงานทะลุ จะยิ่งกระตุ้นความกังวลต่อเศรษฐกิจชะลอตัว
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน(วันที่ 8 มี.ค.) ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 190.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 10.58% จากราคาเปิด 1,828 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่ระดับ 1,987.41 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระดับสูงสุดของปีนี้ คือ 2,002.44 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งราคาเพิ่งขึ้นไปทดสอบในวันที่ 7 มี.ค.ส่วนระดับต่ำสุดของปีนี้อยู่ที่ 1,780.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาทองคำในประเทศปรับตัวสูงขึ้น 2,350 บาทต่อบาททองคำ หรือ +8.22% จากราคาเปิดที่ 26,850 บาทต่อบาททองคำ สู่ระดับ 30,950 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่
ส่วนทิศทางในระยะถัดไป นักลงทุนจึงต้องติดตามข่าวสารและปัจจัยพื้นฐานอย่างใกล้ชิด 6 ปัจจัยได้แก่
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจะทำให้ GDP ที่แท้จริงในเขตยูโรโซนลดลง 0.6% และลดลง 0.3% ในสหรัฐ พร้อมกับกระตุ้นเงินเฟ้อ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนทองทั้งในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนส่งกระทบเป็นวงกว้าง และส่งผลต่อกันเป็นทอดๆ และหากยิ่งยืดเยื้อจะยิ่งลุกลามกลายเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจได้
ดังนั้น หากความตึงเครียดในยูเครนดำเนินต่อไปเชื่อว่าทิศทางราคาทองคำจะยังคงสดใส แม้มีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเป็นระยะจะถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เป็นบวกต่อทองคำ
อย่างไรก็ดี หากความตึงเครียดในยูเครนสิ้นสุดลง ทิศทางทองคำจะวกกลับ จะทำให้ราคาเผชิญแรงขายทำกำไรอย่างหนักได้ นักลงทุนจึงต้องติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมปรับสถานะการลงทุนให้ทันกับสถานการณ์อยู่เสมอ
ประเมินว่าการปรับตัวลงของราคาทองคำยังคงเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเช่นเดิม แต่แนะนำให้แบ่งไม้เข้าซื้อ โดยไม่เข้าซื้อที่แนวรับใดแนวรับหนึ่งเต็ม 100% ของพอร์ต
แนะนำเข้าซื้อไม้แรก หากราคาทองคำหากสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,975-1,958 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่หากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,958 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ควรชะลอการเข้าซื้อออกไปยังแนวรับถัดไปที่ 1,929 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขณะที่การหลุด 1,929 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะทำให้ทิศทางราคาทองคำในระยะสั้นเป็นนลบมากยิ่งขึ้น จึงอาจชะลอการเข้าซื้ออกไปเพื่อรอดูการตั้งฐานของราคาอีกครั้ง