“รัสเซีย-ยูเครน”ราคาน้ำมันพุ่งเกิน 6เดือนฉุดจีดีพีไทยปีนี้โตต่ำกว่า 3%

09 มี.ค. 2565 | 07:25 น.
อัปเดตล่าสุด :09 มี.ค. 2565 | 14:38 น.

ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย ประเมินความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน หากราคาน้ำมันพุ่งเกิน 6เดือนหวั่นกระทยจีดีพีไทยโตต่ำกว่าคาด 3%

“รัสเซีย-ยูเครน”ราคาน้ำมันพุ่งเกิน 6เดือนฉุดจีดีพีไทยปีนี้โตต่ำกว่า 3%

ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนนั้น เบื้องต้นที่ได้รับผลกระทบไปแล้วคือ ต้นทุนราคาพลังงานที่แพงขึ้น จากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่ม อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงการขาดแคลนวัสดุสำคัญ

 

ในแง่ผลกระทบด้านต้นทุนที่แพงขึ้นนั้น ยังขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของผู้ประกอบการหรือ Efficiency ของผู้ประกอบการแต่ละราย หากราคาน้ำมันหรือก๊าซอยู่ในระดับสูงเพียงเดือนเดียวผลกระทบอาจจะไม่มาก    และในเชิงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่กรุงไทยประเมินไว้ยังคงเท่าอัตราเดิมที่ 3.8% 

อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการที่มีประสิทธิด้อยอาจรับผลกระทบจากต้นทุนที่แพงมากขึ้นไม่ไหว  เช่น ถ้าราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูง 120-130ดอลลาร์ต่อบาเรลไปอีก 3เดือน

 

 

 


 

 อาจทำให้ผุ้ประกอบการบางส่วนต้องหยุดการผลิตชั่วคราว  ซึ่งจะกระทบจีดีพีปีนี้เติบโตที่ 3% แต่หากราคาพลังงานอยู่ในระดับสูงและยาวนาน 6เดือน คาดว่าจีดีพีทั้งปีนี้อาจจะเติบโตต่ำกว่า 3% ทั้งนี้ผลกระทบต่อการเติบโตของจีดีพีขึ้นอยู่กับระดับของราคาน้ำมันและระยะเวลาในอนาคตด้วย