ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนนั้น เบื้องต้นที่ได้รับผลกระทบไปแล้วคือ ต้นทุนราคาพลังงานที่แพงขึ้น จากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่ม อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงการขาดแคลนวัสดุสำคัญ
ในแง่ผลกระทบด้านต้นทุนที่แพงขึ้นนั้น ยังขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของผู้ประกอบการหรือ Efficiency ของผู้ประกอบการแต่ละราย หากราคาน้ำมันหรือก๊าซอยู่ในระดับสูงเพียงเดือนเดียวผลกระทบอาจจะไม่มาก และในเชิงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่กรุงไทยประเมินไว้ยังคงเท่าอัตราเดิมที่ 3.8%
อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการที่มีประสิทธิด้อยอาจรับผลกระทบจากต้นทุนที่แพงมากขึ้นไม่ไหว เช่น ถ้าราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูง 120-130ดอลลาร์ต่อบาเรลไปอีก 3เดือน
อาจทำให้ผุ้ประกอบการบางส่วนต้องหยุดการผลิตชั่วคราว ซึ่งจะกระทบจีดีพีปีนี้เติบโตที่ 3% แต่หากราคาพลังงานอยู่ในระดับสูงและยาวนาน 6เดือน คาดว่าจีดีพีทั้งปีนี้อาจจะเติบโตต่ำกว่า 3% ทั้งนี้ผลกระทบต่อการเติบโตของจีดีพีขึ้นอยู่กับระดับของราคาน้ำมันและระยะเวลาในอนาคตด้วย