นายลวรณ แสงสนิท ประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมสลากฯ มีมติให้มีการคัดกรองผู้ขายสลากตัวจริง โดยจะมีการคัดกรองผู้ขายใหม่ทั้งระบบที่มีอยู่ 100 ล้านฉบับ
ซึ่งนอกจากจะมีการคัดกรองผู้มีสิทธิซื้อจองที่ลงทะเบียนไว้เดิมตั้งแต่ปี 58 จำนวน 1.3 แสนรายแล้ว จะมีการคัดกรองในกลุ่มตัวแทน เช่น มูลนิธิ องค์กรการกุศล นิติบุคคล รวมถึงบุคคลธรรมดา ที่มีสัดส่วนสลากอยู่ประมาณ 30 ล้านฉบับ ด้วย เพื่อให้ได้ผู้ค้าสลากตัวจริงที่จำหน่ายราคา 80 บาท ทั้งระบบ
ซึ่งจะใช้วิธีการคัดกรองแบบเดียวกันทั้งระบบ ผ่านแหล่งข้อมูล 4 แหล่ง ได้แก่
1.ข้อมูลจากผู้ซื้อที่ได้มีการแสกนคิวอาร์โค้ดยืนยันการจำหน่ายสลากในราคา 80 บาทของร้านค้า
2. การซื้อขายผ่านแอปฯเป๋าตัง และ ถุงเงิน
3.ข้อมูลจากผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ที่ได้ประสานให้ส่งรายชื่อผู้ค้าตัวจริงในพื้นที่ เพื่อนำมาใช้ในการคัดกรอง
4.ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สำนักงานตำรวจภูธร 9 ภาค และนครบาลทั่วประเทศ ที่ได้ประสานขอให้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผู้ค้าในพื้นที่รับผิดชอบเพื่อส่งข้อมูลมายังสำนักงานสลากฯ
ขณะที่การคัดกรองผู้ค้าที่เปิดลงทะเบียนเมื่อช่วงต้นปี 65 นั้น ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนทั้งหมด 8.7 แสนราย เบื้องต้นจะคัดกรองให้ได้ 7 หมื่นราย เพื่อนำมารวมกับผู้ค้ากลุ่มเดิม ให้ได้จำนวน 2 แสนราย ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
โดยจะเพิ่มการคัดกรองผ่านข้อมูลที่ประสานขอจากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กรมการปกครอง กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม กองทุนการออมแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง มาประกอบการพิจารณาด้วย
“สำนักงานสลากฯ จะมีการนำข้อมูลจากทุกแหล่งมาประมวลผลเพื่อหาผู้ค้าตัวจริง โดยไม่ใช่แค่แหล่งข้อมูลใดแหล่งข้อมูลหนึ่ง เนื่องจากผู้ค้าที่ไม่ได้มีสิทธิหรือมีโควต้าเดิม จะยังไม่มีคิวอาร์โค้ด แต่สามารถให้ข้อมูลแก่ผู้ว่า หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ส่งเป็นฐานข้อมูลกลับมายัง สนง.สลากได้ ” นายลวรณ กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุม ได้กำหนดช่วงระยะเวลาการทดลองระบบ ทั้งการให้ผู้ซื้อแสกนคิวอาร์โค้ดยืนยันผู้ค้า และการซื้อขายผ่านแอปฯเป๋าตัง ใน 3 งวด คือ งวดวันที่ 16 มีนาคม และงวดวันที่ 1 และ 16 เมษายน 65
เพื่อเป็นให้ผู้ค้าและผู้ซื้อได้ปรับตัว ขณะเดียวกันก็จะเป็นการเก็บข้อมูลในเบื้องต้น เพื่อนำมากำหนดเป็นกรอบว่า เมื่อเริ่มจำหน่ายจริง แต่ละผู้ค้าจะต้องมีผู้ซื้อช่วยยืนยันการจำหน่ายสลากในราคา 80 บาทจริง แต่ละงวดจำนวนไม่ต่ำกว่ากี่คน
ทั้งนี้พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน มีผู้ซื้อที่ให้ความร่วมมือในการสแกนคิวร์อาร์โค้ดยืนยันผู้ค้ามาแล้วกว่า 1.2 ล้านครั้ง
ขณะเดียวกัน ผู้ค้าเดิม ยังสามารถจองซื้อสลากได้ตามปกติ จนกว่าทางสำนักงานสลากจะมีการคัดกรอง และมีการประกาศรายชื่อผู้ค้าตัวจริง ทั้ง 2 แสนรายแล้ว ซึ่งอาจไม่ทันงวดวันที่ 2 พ.ค. 65 ที่เคยได้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากการประชาสัมพันธ์ยังไม่ทั่วถึง และมีผู้ลงทะเบียนสมัครเป็นผู้ค้าเข้ามาจำนวนมากเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ต้องใช้เวลาในการคัดกรองเพิ่ม
ส่วนการดำเนินโครงการสลาก 80 ซึ่งในเฟสแรกมี 77 จุด ขณะนี้ได้มีการคัดเลือกตัวแทนจำหน่าย ในส่วนของกรุเทพมหานคร ปริมณฑล และภาคกลาง รวม 151 จุด และอยู่ระหว่างการทำสัญญารับสลากไปจำหน่าย จะเริ่มงวด 2 พฤษภาคม 2565
ซึ่งจะทำให้ยอดรวมของจุดจำหน่ายสลากโครงการ 80 มีทั้งหมด 228 ราย (18 จังหวัด) สำหรับผู้สมัครเข้าร่วมโครงการในจังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกและภาคใต้ อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการคัดเลือกอย่างต่อเนื่อง