“กรุงไทย”เปิดบริการ “ถอนทองออนไลน์” ผ่านแอป “เป๋าตัง”

07 เม.ย. 2565 | 10:11 น.
อัปเดตล่าสุด :07 เม.ย. 2565 | 22:08 น.

กรุงไทยผนึก MTS GOLD แม่ทองสุก เปิดบริการ “ถอนทองออนไลน์” ผ่าน Krungthai Gold Wallet บนแอป เป๋าตัง หลังเปิดบริการซื้อทองออนไลน์ผ่านแอป เป๋าตัง คึกคัก ยอดใช้บริการพุ่งกว่า 70,000 บัญชี

นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า หลังจากธนาคารได้ร่วมกับ MTS GOLD แม่ทองสุก เปิดบริการ “ Krungthai Gold Wallet ” บนแอป เป๋าตัง เพื่อเปิดให้นักลงทุนซื้อขายทองคำบริสุทธิ์ 99.99% ผ่านช่องทางออนไลน์ได้แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องเดินทางไปร้านทอง สะดวกรวดเร็ว ส่งผลให้มีผู้สนใจเปิดใช้บริการเพิ่มมากขึ้นกว่า 70,000 บัญชี สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์นักลงทุน

  นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย

​ล่าสุด  ธนาคารได้เปิดตัวบริการใหม่ “ถอนทองออนไลน์” บนแอป เป๋าตัง เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้นักลงทุนสามารถลงทุนในทองคำได้แบบครบวงจร ทั้งซื้อ ขาย และถอนทองคำได้ ทุกที่ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย และทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

นักลงทุนสามารถส่งคำสั่งถอนทองแท่งบริสุทธิ์ 99.99% ที่จำนวนขั้นต่ำเพียง 0.1 ออนซ์ ให้กับร้านทองแบบออนไลน์ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 01:00 น.- 22:30 น. และจะรับทองได้ภายใน 3 วันนับจากวันที่ส่งคำสั่งถอนทองสำเร็จ เพียงแสดงบัตรประชาชนและสลิปการทำรายการไปยืนยัน เพื่อรับทองด้วยตัวเองที่สาขาร้านแม่ทองสุกที่เลือกผ่าน Gold Wallet รวม 5 สาขา ได้แก่ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า สาขาเซ็นทรัล    เวสเกต สาขากรอบพระ สาขาวงเวียนใหญ่ และ สาขาดิโอลด์สยาม

“กรุงไทย”เปิดบริการ “ถอนทองออนไลน์” ผ่านแอป “เป๋าตัง”

“ธนาคารมุ่งให้ความสำคัญการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม  ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำตลาดในการทำ ESG Financial Solution ที่พร้อมตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลมายกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้าทุกกลุ่มให้ดียิ่งขึ้น ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งจะทำให้ทุกกิจกรรมการใช้ชีวิต ทั้งการใช้จ่าย รวมถึงการออมและการลงทุน เป็นเรื่องง่าย สะดวก ปลอดภัย  ทำรายการได้ทุกที่ ทุกเวลา”นายรวินทร์กล่าว

“กรุงไทย”เปิดบริการ “ถอนทองออนไลน์” ผ่านแอป “เป๋าตัง”