บอนด์ยีลด์สหรัฐดีดพุ่ง 2.8% เกิดภาวะ inverted yield curve

12 เม.ย. 2565 | 01:33 น.
อัปเดตล่าสุด :12 เม.ย. 2565 | 08:34 น.

ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve หลังผลตอบแทนบอนด์ยีลด์อายุ 5 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.8% สูงกว่าบอนด์ 10 ปีที่อยู่ระดับ 2.7% ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์ ) อายุ 5 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.815% โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรดังกล่าวอยู่สูงกว่าพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.778% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ระดับ 2.799%
          

ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานต่ำกว่าคาด โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวเหนือพันธบัตรระยะยาว ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
          
 

นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากการที่เฟดยังคงเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ต่ำกว่าคาด
         

 

เหตุการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปีพุ่งขึ้นสูงกว่าพันธบัตรอายุ 30 ปี ได้เกิดขึ้นในปี 2549 ก่อนที่จะเกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกในอีกเพียงไม่กี่ปีถัดมา

ที่ผ่านมา ภาวะ inverted yield curve มักเกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนพากันเทขายพันธบัตรระยะสั้น และเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในระยะสั้น
          

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันพรุ่งนี้ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ในวันพุธ