กสิกรไทยขานรับวันสิ่งแวดล้อมโลก ชูแคมเปญ “GO GREEN TOGETHER ลดภาวะโลกรวนไปด้วยกัน” ชวนคนไทยเปลี่ยนพฤติกรรมสู่ไลฟ์สไตล์กรีน เรียนรู้และลงมือทำอย่างจริงจังในเรื่อง 8R ช่วยลดการเกิดขยะด้วยการบริโภคอย่างยั่งยืน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งวงจรตั้งแต่การผลิตจนถึงการบริโภคช่วยแก้ปัญหาภาวะโลกรวน รวมทั้งเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม
ด้วยการคอมเมนต์ใต้โพสต์แคมเปญบนเฟซบุ๊ก KBank Live แนบภาพบอกเล่าไอเดียหรือวิธีการรักษาสิ่งแวดล้อม ตามหลัก 8R พร้อมแชร์โพสต์เป็นสาธารณะ ทุก 1 คอมเมนต์ ธนาคารสมทบทุน 100 บาท ติดตั้งโซลาร์เซลล์ ให้แก่โรงพยาบาลในถิ่นทุรกันดาร สนใจติดตามรายละเอียดและร่วมกิจกรรมได้ทางเฟซบุ๊ก KBank Live และเพจข่าวสารด้านสิ่งแวดล้อมที่ร่วมโครงการ ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายนนี้
นายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดการเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืนทั้ง 3 มิติ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ภายใต้การกํากับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยงและการบริหารจัดการต้นทุนที่เหมาะสม โดยธนาคารไม่ได้มุ่งเน้นการเติบโตทางธุรกิจเพียงเท่านั้น
แต่ให้ความสำคัญกับการมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย รวมทั้งการคำนึงถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) หรือภาวะโลกรวน ที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งถือเป็นวาระเร่งด่วนที่ต้องลงมือทำเพื่อแก้ไขโดยทันที เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ประเทศไทยกำหนดในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปีพ.ศ.2593 (ค.ศ.2050) และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปีพ.ศ.2608 (ค.ศ.2065)
ธนาคารกสิกรไทยตระหนักเป็นอย่างยิ่งว่าการสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมมือร่วมใจและลงมือทำสิ่งนี้ไปด้วยกันด้วยความสมัครใจ ดังนั้น ในโอกาสวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน 2565 ธนาคารกสิกรไทยจึงได้ต่อยอดโครงการ GO GREEN TOGETHER
ด้วยการจัดแคมเปญ “GO GREEN TOGETHER ลดภาวะโลกรวนไปด้วยกัน” เพื่อชวนคนไทยเปลี่ยนพฤติกรรมสู่ไลฟ์สไตล์กรีน ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย และทุกการเปลี่ยนแปลงจะช่วยสร้างคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ร่วมกันได้จริง โดยดำเนินกิจกรรมผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของธนาคารและเพจข่าวสารด้านสิ่งแวดล้อมที่ร่วมแคมเปญตลอดเดือนมิถุนายนนี้ ประกอบด้วย
สนับสนุนการเรียนรู้เรื่อง 8R ด้วยการให้ความรู้และตอกย้ำความสำคัญของการเปลี่ยนพฤติกรรมที่จะช่วยแก้ปัญหาภาวะโลกรวน คือ ช่วยลดการเกิดขยะด้วยการบริโภคอย่างยั่งยืน และซึ่งเมื่อลดการบริโภคที่เกินความจำเป็นลงแล้ว จะส่งผลให้ลดการผลิตใหม่ลดลงตามไปด้วยให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งวงจรตั้งแต่การผลิตจนถึงการบริโภค ช่วยแก้ปัญหาภาวะโลกรวน
ซึ่งการเปลี่ยนพฤติกรรมตามแนวทาง 8R ทำได้ไม่ยาก มีหัวใจสำคัญ คือ การใช้ทรัพยาการให้คุ้มค่า ใช้ซ้ำ ใช้ให้นาน และเหลือทิ้งให้น้อยที่สุด ประกอบด้วย Rethink คิดให้ถี่ถ้วนก่อนซื้อหรือบริโภคสินค้า Reduce ลดการบริโภคที่มากเกินความจำเป็น Reuse ใช้ซ้ำให้นานที่สุด Recycle แปรรูปกลับมาใช้ใหม่ Repair ซ่อมแซมสิ่งของใช้งานให้นานที่สุด Regift ส่งต่อของที่ไม่ได้ใช้งานแล้วให้ผู้อื่นใช้งานต่อ Recover นำของที่ไม่ได้ใช้แล้วมาใช้ประโยชน์รูปแบบใหม่ และ Refuse ปฏิเสธสิ่งที่ไม่จำเป็น เช่น บรรจุภัณฑ์ซ้ำซ้อน วัสดุที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ส่งเสริมการเปลี่ยนพฤติกรรม ที่จะสร้างคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน ด้วยการเปิดพื้นที่จัดกิจกรรมให้ทุกคนสามารถร่วมสนุกได้ง่าย ๆ เพียง 2 ขั้นตอน คือ
ธนาคารจึงขอเชิญชวนทุกคนที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อมมาร่วมสนุกในแคมเปญนี้ด้วยกัน เพราะทุกการลงมือทำของท่านล้วนมีความหมาย สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่ยิ่งใหญ่ให้แก่สังคมและโลกใบนี้ได้ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและร่วมสนุกได้ทางเฟซบุ๊ก KBank Live ที่ https://www.facebook.com/KBankLive และเพจข่าวสารด้านสิ่งแวดล้อมที่ร่วมโครงการได้ ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายนนี้
นายกฤษณ์ กล่าวตอนท้ายว่า ธนาคารกสิกรไทยดำเนินภารกิจด้านสิ่งแวดล้อมเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่ปี 2564 ได้มีการประกาศความมุ่งมั่นในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Commitment) จากการดําเนินงานของธนาคาร ภายในปี 2573 (ค.ศ. 2030)
พร้อมเดินหน้าปลี่ยนกระบวนการทำงานของธนาคารเองเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น อาคารสถานที่ ระบบไฟแสงสว่าง ระบบน้ำใช้ การจัดการขยะ และยานพาหนะ เพื่อการประหยัดพลังงานและเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น รวมทั้งรณรงค์ให้พนักงานเกิดความตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นแบบอย่างที่เริ่มจากตัวเองก่อนขยายออกไปสู่สังคมภายนอก
นอกจากนี้ ธนาคารได้กําหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในพอร์ตโฟลิโอของธนาคารให้สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทย โดยจะสนับสนุนด้านการเงินและการลงทุนเพื่อความยั่งยืน ไม่น้อยกว่า 1-2 แสนล้านบาท ภายใน พ.ศ. 2573 (ค.ศ.2030) ซึ่งธนาคารได้มีการสนับสนุนการเงินสีเขียวเพื่อเปลี่ยนผ่านของลูกค้า พันธมิตร
ด้วยการเปิดตัวโครงการ GO GREEN TOGETHER เมื่อต้นปี 2565 เพื่อเชื่อมต่อและผลักดันให้เกิด Green Ecosystem ในประเทศไทยอย่างครบวงจร นำร่องด้วยแคมเปญสินเชื่อ GREEN ZERO รองรับทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ ให้แก่ผู้สนใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า EV หรือติดตั้งแผงโซลาร์ พร้อมตั้งเป้าหมายปี 2565 ปล่อยสินเชื่อและการลงทุนเพื่อความยั่งยืนได้จำนวน 25,000 ล้านบาท
และสำหรับกิจกรรมแคมเปญ “GO GREEN TOGETHER ลดภาวะโลกรวนไปด้วยกัน” ล่าสุดนี้ นับเป็นอีกหนึ่งในความมุ่งมั่นของธนาคารในการชวนทุกคนในสังคมไทยร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมมือกันทำให้เป้าหมาย Net Zero ของประเทศไทยเกิดขึ้นได้จริง