หลักทรัพย์บัวหลวงแนะ ลงทุนผ่าน กองทุนรวมผสม เลี่ยงตลาดผันผวน

14 มิ.ย. 2565 | 09:50 น.
อัปเดตล่าสุด :14 มิ.ย. 2565 | 16:50 น.

หลักทรัพย์บัวหลวงชี้ สงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ กระทบราคาพลังงาน หนุนเงินเฟ้อสูงทั่วโลก กระทบการลงทุนในกองทุนรวม แนะกระจายความเสี่ยง ช่วงตลาดผันผวน ผ่าน “กองทุนรวมผสม”

นายเสริมศักดิ์ วงศ์สิทธิโชค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายค้าตราสารการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ หลักทรัพย์บัวหลวงเปิดเผยว่า ช่วงนี้มีหลายปัจจัยความเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อการลงทุนในกองทุนรวม เช่น  สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่กินเวลายาวนานกว่าที่คาดการณ์ ทำให้เกิดวิกฤตพลังงาน และราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น หนุนให้เงินเฟ้อพุ่งทั่วโลก ล่าสุดเงินเฟ้อของไทยเดือนพ.ค. 2565 อยู่ที่ 7.1% สูงสุดในรอบ 13 ปี

 

นายเสริมศักดิ์ วงศ์สิทธิโชค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายค้าตราสารการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)

รายงาน BLS Top Funds จึงแนะนำให้จัดพอร์ตลงทุนให้เหมาะกับสถานการณ์ โดยสัดส่วนลงทุนหลัก 90% ให้เน้นไปใน “กองทุนรวมผสม” ที่มีนโยบายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนของพอร์ต ส่วนที่เหลือให้ลงทุนในกองทุนที่อาจได้รับประโยชน์จากเงินเฟ้อพุ่งหรือราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นในสัดส่วน 10%

ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ คือ

  • ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแนะนำ BCAP-GW25 กองทุนผสมลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงไม่เกิน 25% ของพอร์ต
  • ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางแนะ BCAP-GW50 กองทุนผสมลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงไม่เกิน 50% ของพอร์ต และให้เพิ่มการลงทุนในกองทุน KTILF ที่ลงทุนในตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนล้อตามเงินเฟ้อ
  • ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะ BCAP-GW7 กองทุนผสมลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง   ไม่เกิน 75% ของพอร์ต และให้เพิ่มการลงทุนในกองทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน KT-ENERGY เพราะราคาพลังงานมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง