ยกเว้น VAT ส่งเสริมการลงทุนใน Data Centre

28 มิ.ย. 2565 | 09:41 น.
อัปเดตล่าสุด :28 มิ.ย. 2565 | 16:56 น.

คณะรัฐมนตรี อนุมัติยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ส่งเสริมการลงทุนในกิจการศูนย์ข้อมูล Data Centre ขณะที่ สรรพากร เผยเห็นความสำคัญ มุ่งผลักดันการลงทุนในระดับ Hyperscale ให้ไทยเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาค

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า “คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในกิจการศูนย์ข้อมูล (Data Centre) โดยยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับการให้บริการพื้นที่เก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Data Hosting Service) เพื่อสนับสนุนให้เกิดการลงทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านราคาค่าบริการ”

ยกเว้น VAT ส่งเสริมการลงทุนใน Data Centre

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากรเห็นถึงความสำคัญของธุรกิจ Data Centre ซึ่งมีลักษณะเป็นการให้บริการพื้นที่เก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต อันเป็นที่นิยมใช้ในปัจจุบัน และเพื่อผลักดันการลงทุนในระดับ Hyperscale ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาค

ยกเว้น VAT ส่งเสริมการลงทุนใน Data Centre

จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. ....เพื่อยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการให้บริการ Data Hosting Service ดังต่อไปนี้

(1) การให้บริการพื้นที่ของเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ในการจัดเก็บ ประมวลผล และเชื่อมต่อข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

(2) การให้บริการสนับสนุนการให้บริการตามข้อ (1) ดังนี้ การให้บริการสำรองข้อมูล เพื่อป้องกันเหตุขัดข้องอันทำให้ข้อมูลเกิดความเสียหาย (Disaster Recovery Site), การให้บริการเชื่อมต่อเครือข่ายกับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตหรือผู้ให้บริการคลาวด์ และการให้บริการบริหารจัดการระบบและการรักษาความปลอดภัยทางสารสนเทศ

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ Data Centre จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าว จะต้องเป็นผู้ประกอบกิจการ Data Centre ที่มีคุณสมบัติและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขครบถ้วนตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด และได้แจ้งความประสงค์เพื่อขอใช้สิทธิต่ออธิบดีกรมสรรพากรภายใน 5 ปี นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับ”