สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 96.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 99.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวในกรอบแคบ โดยแม้ว่านักลงทุนจะเข้าช้อนซื้อหลังจากราคาร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา แต่บรรยากาศการซื้อขายในตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 ก.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.5 แสนบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 5.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 3.5 แสนบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.6 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย หากเฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 9.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าระดับ 8.6% ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.8%
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 5.9% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแม้ว่าชะลอตัวลงจากเดือนพ.ค.ที่พุ่งขึ้น 6.0% แต่ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.8%