นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯ พร้อมเปิดจำหน่ายสลากดิจิทัล งวดที่ 4 ผ่านแอพพลิเคชันเป๋าตัง ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ของวันที่ 17 ก.ค.65 เป็นต้นไป
โดยงวดนี้จะมีสลากจำหน่ายเพิ่มเป็น 7,167,500 ใบ เพิ่มจากเดิมที่มี 5.1 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณความต้องการสลากของผู้ซื้อ หลังจากงวดที่ผ่านมามีการจำหน่ายหมดไวกว่าที่คาด โดยใช้เวลาไม่ถึง 2 วัน ทั้งนี้ ในการพิจารณาเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลในอนาคต
คณะกรรมการสลากฯ ได้พิจารณาอย่างรอบคอบ โดยนำผลตอบรับด้านต่างๆ มาพิจารณาร่วมกันในทุกมิติ ทั้งฝั่งคนซื้อและคนขาย รวมถึงจะทยอยเพิ่มสลากทีละน้อย 1-2 ล้านใบ ไม่ได้เพิ่มครั้งเดียวเป็นปริมาณมาก เพื่อให้ผู้ค้าสลากระบบเดิมมีเวลาปรับตัวและสามารถวางแผนการจำหน่ายสลากได้อย่างถูกต้อง ที่สำคัญจะต้องรักษาความสมดุลระหว่างผู้ค้าในระบบเก่าและระบบดิจิทัลให้อยู่ร่วมกันได้
“การจำหน่ายสลากที่ผ่านมามีผลตอบรับเป็นไปด้วยดี โดยประชาชนกว่า 1 ล้านคน สามารถเข้าถึงซื้อสลากตัวเลขที่ต้องการได้ในราคา 80 บาทได้จริง อีกทั้งยังมีความสะดวก ความปลอดภัย เพราะสลากที่ซื้อทุกใบจะมีการบันทึกข้อมูลไว้ในแอพฯ สามารถขึ้นรางวัลได้ทันที ไม่ยุ่งยาก
สามารถเลือกซื้อได้ทุกวัน ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 5 ทุ่ม ยกเว้นวันออกรางวัลจะซื้อได้ถึง 14.00 น. ซึ่งซื้อได้แบบไม่จำกัด ทุกเลข ทุกใบในราคา 80 บาท”
ส่วนกรณีที่ตั้งข้อสังเกตว่า สลากดิจิทัลขายหมดไวเพราะมีนายทุนกว้านซื้อไปขายต่อทำกำไรนั้น นายลวรณกล่าวว่า จากการติดตามข้อมูล พบว่าปริมาณการซื้อสลากดิจิทัลยังเคลื่อนไหวเป็นปกติ โดยสลาก5 ล้านใบ มีผู้ซื้อประมาณ 9 แสนคน เฉลี่ยแล้วคนหนึ่งซื้อ 5-6 ใบเท่านั้น ไม่พบว่าใครซื้อมากขึ้น หรือซื้อกระจุกตัวแบบผิดสังเกต
ที่สำคัญในการตรวจสอบตามโซเชียลมีเดียก็ไม่พบผู้ค้ารายใหญ่ขายสลากดิจิทัล มีเพียงรายย่อยโพสต์ขายเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้จับกุมดำเนินคดีไปเรียบร้อยแล้ว
ด้าน พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการซื้อสิทธิสลากดิจิทัลต่อจากผู้อื่นอย่างเด็ดขาด เพราะในระบบการจำหน่ายสลากดิจิทัลจะบันทึกชื่อผู้ซื้อไว้อย่างชัดเจน สลากจึงเป็นกรรมสิทธิของผู้ซื้อที่เป็นเจ้าของบัญชีแอปเป๋าตังเท่านั้น
ดังนั้นเมื่อถูกรางวัลเงินรางวัลจะโอนเข้าบัญชีผู้ซื้อ ไม่สามารถโอนสิทธิเปลี่ยนมือการขึ้นรางวัลไปให้บุคคลอื่นได้ หรือกรณีมารับสลากฯ ที่สำนักงานฯ ก็จะต้องใช้ชื่อผู้ซื้อยืนยันตัวตนในการมารับสลากฯ ดังนั้น ถ้าใครหลงเชื่อซื้อสลากดิจิทัลที่มีการนำมาประกาศขายต่อ หากถูกรางวัลอาจเกิดปัญหาตามได้