อาชีพอิสระเฮ! ออมสิน จ่อปรับเกณฑ์ให้กู้ผ่าน MyMo ไม่ต้องยื่นรายได้

18 ก.ค. 2565 | 07:33 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ก.ค. 2565 | 14:39 น.

ออมสิน จ่อปรับรูปแบบเกณฑ์พิจาณาปล่อยกู้ผ่านแอปฯ MyMo ชี้ไม่ต้องยื่นรายได้ หวังช่วยกลุ่มอาชีพอิสระ ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยเข้าถึงสินเชื่อ คาดอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1% - 1.25% ต่อเดือน เริ่มปล่อยกู้ช่วงเดือน พ.ย. 65 นี้

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงแผนดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 65 ว่า ออมสินเตรียมปรับรูปแบบการพิจารณาสินเชื่อ Digital Lending หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ให้กู้ผ่านแอปพลิเคชั่น MyMo โดยไม่ต้องยื่นรายได้ หรือเงินเดือนเพื่อประกอบการพิจารณาสินเชื่อ เพื่อให้กลุ่มลูกค้าของออมสิน โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพอิสระ ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยได้เข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น

แต่จะใช้เกณฑ์พิจารณาสินเชื่อ อาทิ จากอาชีพ ประวัติหรือพฤติกรรมการชำระเงิน ข้อมูลเรื่องการใช้น้ำและไฟฟ้า รวมทั้งเครดิตบูโร เป็นต้น โดยให้วงเงินกู้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อราย ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มโครงการได้ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 65 นี้ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยจะมีการพิจารณาอีกครั้ง แต่เบื้องต้นคาดจะอยู่ที่ประมาณ 1% - 1.25% ต่อเดือน

“การปล่อยสินเชื่อ Digital Lending วงเงินรวมจะไม่เยอะแค่หลักพันล้านบาทเท่านั้น เพราะให้กู้พียงรายละ 2-3 หมื่นบาท แต่จะช่วยเสริมสภาพคล่องจำนวนคนได้มากขึ้น ซึ่งการปรับรูปแบบการพิจาณาสินเชื่อ เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้า ไม่มีหลักฐานรายรับต่อเดือนที่ชัดเจนเหมือนกับพนักงานเอกชน และการทำโครงการนี้ออมสินจะดำเนินการเองทั้งหมด ไม่ได้ขอชดเชยจากรัฐเหมือนที่ผ่านมา หากไม่ปรับรูปแบบ ลูกค้ากลุ่มนี้ก็จะไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้” นายวิทัย กล่าว

 

วิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน

 

นายวิทัย กล่าวอีกว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 65 ธนาคารยังเดินหน้ารุกธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝาก เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนให้กับที่มีต้นทุนถูกลงและเป็นธรรมสำหรับคนไทย โดยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนตุลาคม 2565

 

ขณะเดียวกันยังเดินหน้าโครงการสร้างงานสร้างอาชีพ ตั้งเป้าช่วยผู้เดือดร้อนให้ได้รับสินเชื่อพร้อมมีอาชีพ 200,000 รายภายในสิ้นปี รวมทั้งการออกผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว เช่น การออมพันธบัตรอายุ 10 ปี เป็นต้น 

 

นอกจากนี้ นายวิทัย ยังเปิดเผยถึงผลดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก 2565 โดยธนาคารมีการลดต้นทุนทางธุรกิจและควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารมีกำไรสุทธิ (ณ 30 มิ.ย. 65) จำนวน 15,831 ล้านบาท

 

คาดการณ์กำไรทั้งปี 2565 ที่ 29,000 ล้านบาท ขณะที่ระดับ NPLs อยู่ที่ 2.67% จากเป้าหมาย ไม่เกิน 3.5% โดยมีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) 160% และมีเงินสำรองส่วนเกินอยู่ที่ 41,199 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

ขณะที่ในช่วง 2 ปีผ่าน ธนาคารออมสินได้ดำเนินมาตรการและโครงการต่าง ๆ กว่า 45 โครงการ มีประชาชนได้รับประโยชน์และความช่วยเหลือแล้วจำนวนกว่า 13 ล้านราย โดยเป็นผู้ที่ได้รับสินเชื่อ 5.7 ล้านราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่ไม่เคยมีประวัติเครดิตและเป็นการเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้เป็นครั้งแรกมากถึง 2.76 ล้านราย   

 

สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ได้รับสินเชื่อเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจแล้วเป็นเม็ดเงินกว่า 195,000 ล้านบาท รวมถึงการช่วยเหลือประชาชนที่ตกงานหรือขาดรายได้ให้สามารถกลับมามีอาชีพ และสร้างรายได้ กว่า 100,000 ราย นอกจากนี้ ได้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายโดยการปรับโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้ NPLs อีกร่วม 4 ล้านราย

 

นอกจากนี้ยังได้ทำธุรกิจจำนำทะเบียนมอเตอร์ไซค์ ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงช่วยกดโครงสร้างอัตราดอกเบี้ยของธุรกิจนี้ให้ลดต่ำลง จาก 28% ลงเหลือ 16 - 18% โดยอนุมัติสินเชื่อให้คนฐานรากแล้วกว่า 1 ล้านราย

 

และ การปล่อยสินเชื่อโดยพิจารณาจากที่ดินซึ่งเป็นหลักประกัน ในโครงการสินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน โดยอนุมัติสินเชื่อช่วยผู้ประกอบการแล้วกว่า 21,000 ล้านบาท

 

รวมทั้งการปล่อยสินเชื่อผ่านแอป MyMo 1.6 ล้านราย และปรับปรุงโครงสร้างหนี้ จำนวน 5.4 แสนราย ภายใต้สถานการณ์ COVID-19 โดยที่ลูกค้าประชาชนไม่ต้องไปติดต่อที่สาขา