SCBx ลั่น โอนธุรกิจสู่ยานแม่เสร็จครึ่งปีหลังตามแผน

29 ก.ค. 2565 | 06:24 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ค. 2565 | 13:24 น.

SCBx ลั่นโอนธุรกิจสู่ยานแม่เสร็จครึ่งปีหลัง รุกลงทุน “แพลตฟอร์ม-โครงสร้างพื้นฐาน” ต่อเนื่อง ชูอีโคซิสเต็มที่แตกต่าง ทั้ง Abacus-Monix-Autox-Cardx เจาะตลาดกลุ่มเปราะบาง ที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อ

ภายใต้เป้าหมายสู่การเป็นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงินแห่งภูมิภาคและนานาชาติในปี 2568 ของธนาคาร ไทยพาณิชย์ ภายใต้ยานแม่ SCBx ล่าสุดไตรมาส 2 ปี 2565 ได้ประกาศผลกำไรเติบโต 14%

 

นายมาณพ เสงี่ยมบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการเงิน บมจ.เอสซีบี เอกซ์(SCB)เปิดเผยว่า แผนการโอนธุรกิจภายในธนาคารไปยัง SCBx ยังคงเดินตามไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้ในครึ่งหลังปีนี้ โดยคาดว่า กระบวนการจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 แต่ยังขึ้นกับการได้รับอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เรื่องการจ่ายเงินปันผลพิเศษครั้งเดียวให้กับ SCBx จำนวน 6.1 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในการโอนธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กระบวนการปรับโครงสร้างเสร็จสมบูรณ์

นายมาณพ เสงี่ยมบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการเงิน บมจ.เอสซีบี เอกซ์

แม้จะรอการโอนธุรกิจที่เกี่ยวข้อง แต่ผลงานด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลมีีความคืบหน้า โดยครึ่งแรกปี 2565 มียอดผู้ใช้งานดิจิทัลรวม 23 ล้านคนเพิ่มขึ้น 35% สินเชื่อ 4.8 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 69% รายได้จากธุรกิจดิจิทัลที่สัดส่วน 4% ของรายได้รวม แต่มีอัตราเติบโตถึง 85% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

 

ด้านสินเชื่อบนแพลตฟอร์มดิจิทัลทั้ง 3 แพลตฟอร์มคือ SCB, ABACUS และ MONIX ขยายตัวรวมกว่า 3 เท่า (SCB 1.4 แสนล้านบาท, ABACUS 2.5 แสนล้านบาท, MONIX 5 แสนล้านบาท) ส่วน CardX มีสินเชื่อ 1.07 แสนล้านบาท มีรายได้ 9 พันล้านบาท และ AUTOX 5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ฐานผู้ใช้โรบินฮู้ดมากกว่า 3.1 ล้านรายเพิ่มขึ้น 2.5 เท่า

 “ระยะยาวเราคาดหวังว่า ธุรกิจภายใต้ SCBx ต้องสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเพิ่มขึ้น จากเริ่มต้นสัดส่วนรายได้น่าจะเพิ่ม 15-20% ซึ่งแผนงานในอนาคตจะขยายการลงทุนในแพลตฟอร์ม เทคโนโลยี และหากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง เชื่อว่าความต้องการสินเชื่อจะเติบโต 5% จากที่ทำได้ 3% ในครึ่งปีแรก จากลูกค้าขนาดใหญ่ที่ยังต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น ประกอบกับจะไปเจาะกลุ่มเปราะบางที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อ ซึ่งเรามีโอกาสและเวลาที่จะเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้ภายใต้ ecosystem ที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น SCB, ABACUS และ MONIX”นายมาณพกล่าว

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,804 วันที่ 28 - 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2565