ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 322 จุด รับแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนฯ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,291.78 จุด พุ่งขึ้น 322.55 จุด หรือ +0.98%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,199.12 จุด เพิ่มขึ้น 58.35 จุด หรือ +1.41% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,639.27 จุด พุ่งขึ้น 207.74 จุด หรือ +1.67%
         

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ปรับตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐชะลอตัวลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ ทะยานขึ้น 3.38% หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.49% หุ้นไมโครซอฟท์ ดีดขึ้น 1.11% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 1.90% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.6%
         

หุ้นกลุ่มวัสดุดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน พุ่งขึ้น 6.06% หุ้นยูเอส สตีล คอร์ป ทะยานขึ้น 7.40% หุ้นวัลแคน มาเทเรียลส์ พุ่งขึ้น 2.19%
         

หุ้นอินวิเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 4.01% เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัท แม้ว่าอินวิเดียปรับลดคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ก็ตาม
         

หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 2.06% หลังจากบริษัทประกาศแผนการปิดธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในรัสเซีย โดยจะเริ่มต้นขึ้นในไตรมาส

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 243,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 255,000 ราย

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 โดยระบุว่า GDP ไตรมาส 2 หดตัวลง 0.6% ซึ่งดีกว่าตัวเลขประมาณการครั้งแรกที่ระบุว่า GDP หดตัว 0.9% หลังจากที่หดตัวลง 1.6% ในไตรมาส 1

นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันนี้ (26 ส.ค.) เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการปรับลดขนาดงบดุล (QT) ของเฟด