เงินดอลล์แข็งค่ากดดัน"ทองคำนิวยอร์ก"ปิดร่วง 9.7 ดอลล์

06 ก.ย. 2565 | 23:59 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.ย. 2565 | 07:00 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (6 ก.ย.) ตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 9.7 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ 1,712.9 ดอลลาร์/ออนซ์
         

  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.7 เซนต์ หรือ 0.15% ปิดที่ 17.908 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 15.6 ดอลลาร์ หรือ 1.91% ปิดที่ 833.9 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 52.90 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 1,973.20 ดอลลาร์/ออนซ์

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.35% แตะที่ระดับ 110.2140 เมื่อคืนนี้ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะ 3.347% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีนี้
         

ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่าการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของภาคบริการสหรัฐจะผลักดันให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 56.9 ในเดือนส.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 55.5 จากระดับ 56.7 ในเดือนก.ค. โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน
         

นักลงทุนปรับเพิ่มการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 74.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนัก 26.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%