กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบรนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ตามที่ JASIF ได้เข้าทำสัญญากู้ยืมเงินจำนวน 18,160 ล้านบาทกับ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BBL เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2562 เพื่อนำเงินกู้มาซื้อทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงเพิ่มเติมในปี 2562 นั้น
สัญญาสินเชื่อดังกล่าวมีข้อกำหนดห้ามไม่ให้กองทุนรวมแก้ไข แปลงหนี้ หรือยกเลิกสัญญาจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน ห้ามกองทุนรวมแก้ไข โครงการจัดการกองทุนรวม เว้นแต่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดหรือเพื่อให้โครงการจัดการกองทุนรวมเป็นไปตามกฎหมาย ห้ามกองทุนรวมลดทุนเว้นแต่จะได้รับความยินยอมของธนาคารกรุงเทพ รวมถึงกำหนดให้การยกเลิกสัยญาจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานเป็นเหตุผิดนัดตามสัญญาสินเชื่อ
อ่านเพิ่มเติม : JASIFพุ่ง 3.18% โบรกฯมอง BBL ลดดบ.ช่วยลดต้นทุนดันยีลด์พุ่ง12%
ในการนี้ บลจ.บัวหลวง ในฐานะบริษัทจัดการของ JASIF อยู่ในระหว่างการดำเนินการประสานงานกับธนาคารกรุงเทพเพื่อขอผ่อนผันข้อกำหนดตามสัญญาสินเชื่อให้ JASIF สามารถดำเนินการตามข้อเสนอของบริษัท แอดวานซ์ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ AWN ในการแก้ไขสัญญาจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน และแก้ไขโครงการจัดการกองทุนรวมในส่วนที่เกี่ยวข้อง หากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วย มีมติอนุมัติข้อเสนอของ AWN โดยธนาคารกรุงเทพยังอยู่ในระหว่างพิจารณาเพื่อให้ความยินยอมแก่ JASIF ในการดำเนินการข้างต้น โดยบริษัทจัดการจะแจ้งความคืบหน้าให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบต่อไป
นอกจากนี้ บลจ.บัวหลวง ได้หารือธนาคารกรุงเทพเพิ่มเติมเพื่อขอให้ธนาคารกรุงเทพ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยและขยายระยะเวลาชำระหนี้ของสัญญาสินเชื่อ เนื่องจากการเปลี่ยนผู้สนับสนุนหลักมาเป็น AWN ซึ่งมีสถานะทางการเงินที่มั่นคงแข็งแกร่ง ซึ่งส่งให้ความเสี่ยงทางธุรกิจของกองทุนรวมลดลง โดยบริษัทจัดการขอแจ้งว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2565 ธนาคารกรุงเทพเห็นชอบในหลักการที่จะขยายระยะเวลาชำระหนี้ และปรับลดอัตราดอกเบี้ย
โดยธนาคารกรุงเทพแจ้งว่าได้เห็นชอบในหลักการที่จะขยายระยะเวลาชำระหนี้และปรับลดดอกเบี้ย จากที่ต้องชำระในปี 2566-2573 รวม 13,350 ล้านบาท เงื่อนไขใหม่ยืดชำระถึงปี 2575 สาระสำคัญอยู่ที่การลดวงเงินในการชำระคืนปีแรก จากที่จ่าย 1,150 ล้านบาท เป็นการจ่ายปี 2566 เพียง 50 ล้านบาท และเพิ่มเป็นหลักร้อยล้านบาท มาเร่งจ่ายปีละ 2,000 ล้านบาทในปี 2571 เป็นต้นไป ส่วนอัตราดอกเบี้ยเดิมคิดอัตรา MLR เหลือ MLR- 0.5%ต่อปี
อย่างไรก็ดีเงื่อนไขใหม่ดังกล่าว จะมีผลบังคับต่อเมื่อกองทุน ฯ ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไข เช่น ส่งเอกสารหลักฐานเพื่อแสดงว่ากองทุนรวมได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหน่วยให้ JAS ขายให้กับ AWN รวมถึงมติอนุมัติในการเจรจาตกลงแก้ไขรายละเอียดของสัญญาต่างๆ เช่น การแก่ไขสัญญาเช่าหลัก ต้องไม่ครบกำหนดก่อนวันที่ 31 ธ.ค.2580 และการชำระค่าเช่าล่วงหน้า โดย TTTBB จำนวน 3,000ล้านบาท แบ่งชำระงวดแรก 1,000 ล้านบาท ในวันที่ลงนามในสัญญาแก้ไขสัญญาเช่าหลัก และเอกสารหลักฐาน เพื่อแสดงการเข้าซื้อหุ้นใน TTTBB และหน่วยลงทุนในกองทุนรวม โดย AWN เสร็จสมบูรณ์ ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 99.87% และมีอำนาจควบคุมใน TTTBB
อนึ่งเงื่อนไขการชำระคืนเงินต้นเดิมใน ปี 2566 จะอยู่ที่ 1,150 ล้านบาท ,ปี 2567 อยู่ที่ 1,300 ล้านบาท ,ปี 2568 อยู่ที่ 1,450 ล้านบาท ส่วนปี 2569 อยู่ที่ 1550 ล้านบาท และปี 2570 อยู่ที่ 1,700 ล้านบาท สำหรับอัตราดอกเบี้ยปี 2566-2570 อัตราดอกเบี้ย MLR โดยต้องจ่ายคืนเงินต้น 7.15 พันล้านบาท